หลังจากที่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาในพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี ซึ่งมีผู้พักอาศัยหลายแสนคนได้รับความเดือดร้อนออกไปทำงานไม่ได้เนื่องจากน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรทำให้รถจำนวนมากต้องจอดจมครึ่งคันได้รับความเสียหาย ขณะที่รถใหญ่ผ่านได้แต่กลับทำให้คลื่นน้ำซัดเข้าบ้านเรือนประชาชนจนทำให้ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายจำนวนหลายหลัง
ล่าสุด นายอนันต์ ตั้งเนียนนาทชัย รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี พร้อมสั่งระดมคนงาน นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 15 เครื่อง เข้าระดมสูบน้ำจากพื้นที่ภายในเคหะเมืองใหม่บางพลีจำนวนสองจุด เพื่อเร่งสูบน้ำลงสู่คลองเจริญราษฎร์ แต่ก็พบว่าปริมาณน้ำในคลองเจริญราษฎร์มีระดับน้ำที่สูงเอ่อล้นตลิ่งด้วยเช่นกันทำให้การระบายน้ำเป็นไปค่อนข้างลำบาก จึงเร่งประสานไปยังกรมชลประทาน ชลหารพิจิตรเร่งสูบน้ำลงสู่ทะเล คาดว่าหากไม่มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเติมในช่วงเย็นสถานการณ์น่าจะเข้าสภาวะปกติ
รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง กล่าวว่า น้ำท่วมในรอบนี้ถือเป็นการท่วมที่หนักที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับพื้นที่ในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลีเป็นแอ่งกระทะ ทำให้กลายเป็นที่รองรับน้ำได้อย่างดี ถึงแม้จะมีการวางระบบระบายน้ำแบบลำรางสาธารณะรอบชุมชนแต่กลับพบปัญหาของขยะจำนวนมากที่ผู้พักอาศัยในชุมชนบางรายมักง่ายทิ้งขยะลงสู่ที่สาธารณะและลำรางทำให้ขยะเหล่านี้ไปกองรวมขวางทางระบายน้ำจนต้องระดมคนงานจำนวนมากได้ตักขยะขึ้นจึงอยากวอนไปยังประชาชนที่พักอาศัยในชุมชนการเคหะอย่าทิ้งขยะลงในที่สาธารณะหรือลำรางระบายน้ำ โดยปัจจุบันได้วางระบบระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำพร้อมทั้งประสานไปยังฝั่งนิคมอุตสาหกรรมบางพลีเพื่อสูบน้ำออกลงสู่คลองหัวเกลือด้วย
ขณะที่การจราจรบนถนนสายหลักหลายสายตั้งแต่ช่วงเช้ากลายเป็นอัมพาต เนื่องจากมีบางจุดที่มีปริมาณน้ำฝนท่วมขังบนผิวการจราจร ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดนิ่ง ถนนเฉพาะบนถนนบางนาตราด และถนนเทพารักษ์ ที่กลายเป็นอัมพาตอย่างหนัก เนื่องมีรถจำนวนมากที่มุ่งหน้าเข้าชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี แต่รถไม่สามมารถเคลื่อนตัวไปได้ทำให้ออกมากีดขวางการจราจร แม้กระทั่งบนทางด่วนบูรภาวิถี ทั้งขาเข้าและขาออกติดเป็นทางยาวหลายกิโล เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพื้นที่ติดต่อต้องออกมาเร่งระบายการจราจรและเส้นทางเชื่อมต่อที่เป็นทางลัด
ล่าสุด นายอนันต์ ตั้งเนียนนาทชัย รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี พร้อมสั่งระดมคนงาน นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 15 เครื่อง เข้าระดมสูบน้ำจากพื้นที่ภายในเคหะเมืองใหม่บางพลีจำนวนสองจุด เพื่อเร่งสูบน้ำลงสู่คลองเจริญราษฎร์ แต่ก็พบว่าปริมาณน้ำในคลองเจริญราษฎร์มีระดับน้ำที่สูงเอ่อล้นตลิ่งด้วยเช่นกันทำให้การระบายน้ำเป็นไปค่อนข้างลำบาก จึงเร่งประสานไปยังกรมชลประทาน ชลหารพิจิตรเร่งสูบน้ำลงสู่ทะเล คาดว่าหากไม่มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเติมในช่วงเย็นสถานการณ์น่าจะเข้าสภาวะปกติ
รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง กล่าวว่า น้ำท่วมในรอบนี้ถือเป็นการท่วมที่หนักที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับพื้นที่ในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลีเป็นแอ่งกระทะ ทำให้กลายเป็นที่รองรับน้ำได้อย่างดี ถึงแม้จะมีการวางระบบระบายน้ำแบบลำรางสาธารณะรอบชุมชนแต่กลับพบปัญหาของขยะจำนวนมากที่ผู้พักอาศัยในชุมชนบางรายมักง่ายทิ้งขยะลงสู่ที่สาธารณะและลำรางทำให้ขยะเหล่านี้ไปกองรวมขวางทางระบายน้ำจนต้องระดมคนงานจำนวนมากได้ตักขยะขึ้นจึงอยากวอนไปยังประชาชนที่พักอาศัยในชุมชนการเคหะอย่าทิ้งขยะลงในที่สาธารณะหรือลำรางระบายน้ำ โดยปัจจุบันได้วางระบบระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำพร้อมทั้งประสานไปยังฝั่งนิคมอุตสาหกรรมบางพลีเพื่อสูบน้ำออกลงสู่คลองหัวเกลือด้วย
ขณะที่การจราจรบนถนนสายหลักหลายสายตั้งแต่ช่วงเช้ากลายเป็นอัมพาต เนื่องจากมีบางจุดที่มีปริมาณน้ำฝนท่วมขังบนผิวการจราจร ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดนิ่ง ถนนเฉพาะบนถนนบางนาตราด และถนนเทพารักษ์ ที่กลายเป็นอัมพาตอย่างหนัก เนื่องมีรถจำนวนมากที่มุ่งหน้าเข้าชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี แต่รถไม่สามมารถเคลื่อนตัวไปได้ทำให้ออกมากีดขวางการจราจร แม้กระทั่งบนทางด่วนบูรภาวิถี ทั้งขาเข้าและขาออกติดเป็นทางยาวหลายกิโล เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพื้นที่ติดต่อต้องออกมาเร่งระบายการจราจรและเส้นทางเชื่อมต่อที่เป็นทางลัด