วันนี้( 1 มิ.ย.2563)​ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ขยายผลความเชื่อมโยงเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดที่จับได้ ให้ถึงรายใหญ่ที่มีพฤติกรรมพัวพันอยู่เบื้องหลัง และ ขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ตามกฎหมาย นั้น ล่าสุดพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลักลอบ ลำเลียงขนยาเสพติดตามแนวชายแดน เข้ามาจำหน่ายภายในประเทศไทยหรือในพื้นที่ชั้นใน โดยประสานการทำงานด้านการข่าวและข้อมูลยาเสพติด ร่วมกับ ทหาร , ฝ่ายกปครอง, ปปส และ ปปง. เพื่อขยายผลการจับกุม ถึงเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ นายทุน ผู้อยู่เบื้องหลัง ตลอดจนดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด ให้สิ้นซาก ซึ่งห้วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ พร้อมยึดของกลางยาบ้า ได้กว่า 14 ล้านเม็ด และ เมื่อวันที่ (1 มิ.ย. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดภาค 1 ได้สกัดกั้นและจับกุมขบวนการลำเลียงยาเสพติด กัญชา 600 กิโลกรัม จากการขยายผลการจับกุมกัญชา หนัก 500 กิโลกรัม จากแก๊งจำหน่ายยาเสพติดในกรุงเทพฯ โดยทั้งหมดจะมีการขยายผลการจับกุม ไปถึงผู้ร่วมขบวนการและนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ตลอดจนดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การปราบปรามยาเสพติดของ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส. ในห้วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และ การประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการ์ฉุกเฉินฯ ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นและสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร ได้เน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มในการจับกุม ปราบปราม ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ลำเลียงยาเสพติด ทั้งรายใหญ่และรายย่อยในทุกระดับ ดำเนินการซักถาม ขยายผลเครือข่ายผู้ร่วมขบวนมาดำเนินคดีตามกฎหมายเน้นการสกัดกั้น ลักลอบลำเลียงขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดนไม่ให้เข้ามาพื้นที่ชั้นใน หรือแหล่งชุมชน รวมทั้งสถานศึกษาต่างๆ รวมถึง การเพิ่มมาตรการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจคัดกรองยานพาหนะ บุคคลต้องสงสัย อย่างเข้มงวด