"ไทย" ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 1 ราย กลับจากรัสเซีย ไร้ตาย "ศบค." ชี้ยังไม่น่าไว้วางใจ อยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อผ่อนปรน ผ่อนปรนระยะ 3 ย้ำต้องปฏิบัติตาม 5 มาตรการ ด้าน "เจ้าชายโจอาคิม" ราชวงศ์เบลเยียม ประชวรติดเชื้อไวรัส หลังทรงร่วมงานปาร์ตี้แดนกระทิงดุ ขณะที่เหยื่อตายป่วยจากพิษไวรัสมรณะยังพุ่งทะยานไม่หยุด ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3,082 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม หายป่วยกลับบ้านเพิ่มอีก 2 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 2,965 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 60 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ได้แก่ กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine เป็นหญิง อายุ 43 ปี เดินทางกลับจากประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ผ่านมา 7 วัน เราพบเฉพาะผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น ซึ่งตัวเลขที่เกิดในประเทศไทย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่เพียง 7 วัน ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะต้องไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องรอดูในระยะผ่อนปรนที่ 2 ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เนื่องจาก เป็นการผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการ ที่มีความเสี่ยงปานกลางไปถึงเสี่ยงสูง แต่เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติ และต้องปฏิบัติตาม 5 มาตรการหลัก เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เจ้าชายโจอาคิม อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสเต (Prince Joachim of Belgium, Archduke of Austria-Este) พระราชภาคิไนย (หลาน) ในสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปแห่งเบลเยียม (King Philippe of Belgium) ประชวรด้วยอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังจากที่พระองค์ทรงร่วมงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นที่ประเทศสเปน โดยงานปาร์ตี้ดังกล่าวจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวและละเมิดกฎหมายการบังคับใช้มาตรการปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ซึ่งขณะนี้ทาางเจ้าหน้าที่ตำรวจสเปนกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนต่อกรณีดังกล่าวแล้ว ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 6,267,447 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 373,961 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 2,847,541 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,837,170 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 106,195 ราย