ประกาศจังหวัดนครปฐม ฉบับที่ 42/2563 มาตรการผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา ในท้องที่จังหวัดนครปฐม วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครปฐม ได้ออกประกาศจังหวัดนครปฐม ฉบับที่ 42/2563 มาตรการผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา ในท้องที่จังหวัดนครปฐม ตามที่ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ๒๕๖๓ และได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 9) ผ่อนคลายการดำเนินการหรือการทำกิจกรรมบางอย่าง ภายใต้เงื่อนไขมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการ นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐม จึงออกประกาศกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายในส่วนของการผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2563 ในระยะแรกนี้ ให้ผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อจัดการศึกษา การอบรม การประชุม หรือเพื่อประโยชน์ในการสอบหรือการคัดเลือกบุคคล ดังต่อไปนี้ 1) การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน หรือการฝึกอบรมของโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เฉพาะประเภทวิชาชีพ และประเภทศิลปะและกีฬา (เฉพาะประเภทกีฬาที่ผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมได้) โดยพิจารณาถึงจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียน ความพร้อมและความสามารถในการจัดรูปแบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น การจัดสถานที่และระบบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคเป็นสำคัญ 2) การใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อการประชุมการจัดการสอบ การสอบคัดเลือก การฝึกอบรมระยะสั้นไม่เกินสิบห้าวันหรือดำเนินการอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาตามข้อ 1) และ 2) ต้องปฏิบัติตามป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด การจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ รวมทั้งคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด การจำหน่ายหรือบริการอาหารและเครื่องดื่มให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคตามประกาศจังหวัดนครปฐม ที่ 30/2563 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 โดยให้มีมาตรการดังต่อไปนี้ มาตรการควบคุมหลัก - ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสร่วมบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการเรียนการสอนรวมถึงห้องสุขา และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน - ให้ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาผู้ปกครองและผู้ร่วมกิจกรรมสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า - ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค - ให้เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน และเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะเรียนและที่นั่งเรียนอย่างน้อย 1 เมตร - ให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด (กรณีห้องปรับอากาศให้คิดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามขนาดพื้นที่ห้อง เกณฑ์ไม่น้อยกว่า 5 ตารางเมตร ต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน) หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน ทั้งนี้ ให้พิจารณาปรับเวลาการเรียน สลับวันเรียน ปรับการเรียนเป็นระบบออนไลน์ในบางรายวิชา หรือปรับหลักสูตรให้งดเรียนบางรายวิชา - ให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบพิจารณาให้โรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาดำเนินกิจการหรือจัดกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม รวมทั้งให้ลงทะเบียนยืนยันการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด - ให้มีการควบคุมทางเข้าออก ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทนได้ มาตรการเสริม - มีมาตรการคัดกรองไข้ และอาการไอ หอบเหนื่อย จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้ร่วมกิจกรรม ก่อนเข้าอาคาร หรือรับ - ส่งนักเรียน โดยเจ้าหน้าที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ผ่านการอบรมการตรวจคัดกรองอาการป่วย และรายงานหน่วยงานรับผิดชอบ กรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคตามแนวทางที่กำหนด - จัดให้มีการระบายอากาศภายในอาคารที่ดี รวมถึงภายในห้องสุขา ทั้งนี้ ให้ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ และจัดการฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ - จัดให้มีระบบคิว มีพื้นที่รอคิวที่มีที่นั่งหรือยืนห่างกัน อย่างน้อย 1 เมตร ทั้งบริเวณจุดรับประทานอาหาร ห้องน้ำ - จัดให้มีการแนะนำผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้ร่วมกิจกรรม รวมถึงให้มีการตรวจตรา ควบคุม กำกับการเรียนการสอน การสอบ สอบคัดเลือก การฝึกอบรม และงานธุรการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมหลักอย่างเคร่งครัด - ให้พิจารณาพัฒนานวัตกรรมการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ และระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อให้มีการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ในระยะยาว ให้หน่วยงานมีหน้าที่ในการรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้ - สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในพื้นที่ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ออกคู่มือและเกณฑ์การปฏิบัติตามความเหมาะสมกับพื้นที่และประเภทของกิจการ - ศูนย์ปฏิบัติการโควิด – 19 จังหวัดนครปฐม ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตาม กำกับ ดูแล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด - หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดกำลังสายตรวจร่วม ตำรวจ ทหาร สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อตรวจการประกอบการหรือการจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมหลัก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจและให้คำแนะนำ หรือตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดเวลา หากพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการที่กำหนด ให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐมสั่งปิดสถานที่นั้นเฉพาะราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป