สถานทูตฯ เตือนคนไทยในสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมด่วน หลังเมืองใหญ่หลายแห่งประกาศเคอร์ฟิว จากการประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวผิวสีที่ถูกตำรวจล็อกคอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นเหตุจลาจล จากกรณีได้มีการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา จากเหตุการณ์เสียชีวิตของ นาย จอร์จ ฟลอยด์ "George Floyd" ชาวผิวสี ภายหลังการถูกควบคุมตัวโดยตำรวจในเมืองมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อวันที่ 25 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดการจลาจลลุกฮือในเมืองต่างๆ ทั่วทั้งสหรัฐฯ และการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองได้บานปลายจนมีการใช้ความรุนแรง การปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและการทำลายทรัพย์สินธุรกิจการค้านั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 พ.ค.63 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ขอให้ชุมชนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วงโปรดติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและ ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานภาครัฐท้องถิ่น พร้อมทั้งใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเข้าไปใกล้พื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วงและพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ โดยไม่จำเป็นหากท่านได้รับความเดือดร้อนหรือทราบข่าวว่าคนไทยได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว ขอให้แจ้งหน่วยงานภาครัฐในท้องที่และแจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อทราบที่หมายเลขโทรศัพท์ 202- 999-7690 หรืออีเมล [emailprotected] ข้อแนะนำเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน www.thaiembdc.org/th/consularservice/emergency/ CR.Royal Thai Embassy, Washington D.C. รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะที่ในลอสแอนเจลิส ชิคาโก แอตแลนตา และอีกกว่า 20 เมืองนั้น ทางการท้องถิ่นได้สั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล โดยในหลายรัฐยังได้มีการเรียกร้องให้ทหารจากหน่วย National Guard เข้ามาช่วยควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดในสหรัฐในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยในซีแอตเทิลและนิวยอร์ก ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมกันตามท้องถนน เพื่อเรียกร้องให้ลงโทษผู้ก่อเหตุให้หนักขึ้น และจับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ แม้มีรายงานว่า ดีเรค ชอวิน ตำรวจผิวขาวที่ก่อเหตุได้ถูกจับกุมตัวในข้อหาฆาตกรรมนายฟลอยด์แล้วก็ตาม ส่วนในลอสแอนเจลิส เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงกระสุนยางและใช้กระบองปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่จุดไฟเผารถตำรวจ ขณะที่ในชิคาโกและนิวยอร์กนั้น ตำรวจตอบโต้ด้วยการพ่นสเปรย์พริกไทย