การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้การเล่นเกมออนไลน์เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้อีกในอนาคต จึงทำให้ธุรกิจเกมคลาวด์คอมพิวติ้ง (Game Cloud Computing: GCC) ซึ่งเป็นบริการให้เช่าใช้ระบบให้บริการเกมออนไลน์ แทนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวโดยผู้พัฒนาเกม มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการ GCC ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในต่างประเทศ เนื่องจากตลาดเกมออนไลน์ไทยในช่วงก่อนหน้ามีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่จากการเติบโตกว่า 11.4% ต่อปี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทำให้ตลาดเกมออนไลน์ไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และส่งผลให้ความต้องการระบบ GCC สำหรับให้บริการเกมออนไลน์ในไทยพุ่งขึ้นแตะ 0.73 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.03 หมื่นล้านบาทในปี 2563 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งไทยที่จะขยายธุรกิจสู่บริการ GCC ต่อไป ทั้งนี้แม้ว่าตลาดบริการ GCC มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะข้างหน้า แต่ผู้ประกอบการไทยยังคงต้องแข่งขันกับผู้ให้บริการในสิงคโปร์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กลยุทธ์การชูจุดเด่น และสร้างความแตกต่างให้กับตนเองจึงมีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะการต่อยอดจากความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคไทย และการผสมผสานเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจสู่การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ที่เรียกว่า โมเดลธุรกิจเกมคลาวด์คอมพิวติ้งแบบผสมผสาน นอกจากจะนำเสนอบริการโครงสร้างพื้นฐาน GCC แล้วยังหนุนกิจกรรมทางการตลาดใน 3 ส่วนคือ กิจกรรมการประชาสัมพันธ์เกมในหมู่ผู้บริโภค กิจกรรมการจัดจำหน่าย และกิจกรรมต่อยอดธุรกิจผ่านพันธมิตร โดยโมเดลธุรกิจนี้เหมาะสมกับเกมออนไลน์ที่มีกิจกรรมทางตรงกับผู้บริโภค แต่ต้องคำนึงถึงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และข้อตกลงให้ผู้บริโภคยินยอมให้ข้อมูล (Consent of form)