เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2563 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการ และประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และปลัดกทม. ลงวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้มีข้อกำหนดและคำสั่ง จำนวน 3 ฉบับ ดังนี้ 1.ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 ยกเว้นหรือผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง สามารถจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แกราษฎรจังหว้ลำปาง เขดเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง 2.ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1) การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่าง เวลา 23.00 น. - 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น 2) การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา 3) การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ ประกอบด้วย กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต และกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ 4) การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ 5) การผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด 6) ในกรณีมีปัญหาว่าสถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดหรือไม่ให้หารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคคิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) 7) หากพบการแสดงตนโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหรือแจ้งต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล 3. คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์กรแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 4/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 โดยให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคแนบท้ายคำสั่งนี้โดยเคร่งครัด ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรดดิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) กระทรวงมหาดไทย(ศบค.มท.) พิจารณาแล้ว ขอให้จังหวัดดำเนินการ ดังนี้ 1. รับทราบและถือปฏิบัติ ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 8) ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 9) และคำสั่งศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 4/2563 เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาดรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3) โดยเคร่งครัด ข้อกำหนดฯ ถือเป็นกฎหมายที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จึงต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด ไม่ต้องเพิ่มเติมกิจการกิจกรรมใดๆ แต่อาจเสริมมาตรการในทางปฏิบัติได้ 2. สร้างการรับรู้ตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ที่ 4/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 3) แก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ 3. ในกรณีมีปัญหาว่าสถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้หรือไม่ ให้จังหวัดแจ้งกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ต่อไป 4. ให้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมาตรการที่กำหนดด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ กรณีพบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือแสวงหาผลประโยชน์อื่นใด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทั้งทางวินัยและอาญา 5. ให้รายงานผลการปฏิบัติงาน ปัญหาอุปสรรรค และข้อแนะนำตามแบบที่กำหนดไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) กระทรวงมหาดไทย(ศบค.มท.) เป็นประจำทุกวัน ภายในเวลา 16.00น.