สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการรัฐต่างๆ ของประเทศสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉิน และคำสั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด หรือเคอร์ฟิว ในพื้นที่หลายเมือง ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น เพื่อควบคุมสถานการณ์ที่ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วง ด้วยไม่พอใจอย่างรุนแรงจากกรณีที่นายจอร์ ฟลอยด์ ชาวสหรัฐฯ เชื้อสายแอฟริกัน หรือชาวผิวดำ ถูกตำรวจชาวผิวขาว กุมตัวและจับกดคอกับพื้นจนเสียชีวิตในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อช่วงต้นของสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนการชุมนุมประท้วงข้างต้น เกิดเป็นกระแสลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจล และปล้นสะดมภ์ ไปในพื้นที่เมืองต่างๆ หลายรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า ถึงแม้ประกาศภาวะฉุกเฉินและคำสั่งเคอร์ฟิว มีผลบังคับใช้ในพื้นที่หลายเมือง แต่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ยังคงชุมนุมประท้วงและก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง จนทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอื่นๆ เข้าไปควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วงกัน จนเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ฯ กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องใช้แก๊สน้ำตาและยิงกระสุนยาง เข้าใส่ฝูงชน เพื่อระงับเหตุ รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด ทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ลงไปในพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วง เพื่อควบคุมสถานการณ์แล้ว สำหรับ เมืองในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่บังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิว ได้แก่ มินนิอาโปลิส ชิคาโก ลอสแอนเจลิส แอตแลนตา เดนเวอร์ ฟิลาเดลเฟีย พิตต์สเบิร์ก ซีแอตเติล คลีฟแลนด์ โคลัมบัส พอร์ตแลนด์ โรเชสเตอร์ ไมอามี มิลวอกี และซอลต์เลกซิตี