เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของ กทม. ว่าที่ประชุมเห็นชอบพื้นที่ทำการค้านำร่อง 3 จุดคือ 1.บริเวณทางเท้าถนนพระราม 2 ซอย 69 เขตบางขุนเทียน 2.บริเวณทางเท้าซอยอารีย์ 1 เขตพญาไท และ 3.บริเวณที่ว่างซอยอ่อนนุช 70 เขตประเวศ โดยบางจุดมีกลุ่มผู้ค้ารายเดิมขอกลับมาทำการค้าขายในจุดเดิมทั้งหมด แต่ที่ประชุมเห็นว่าไม่สมควร เนื่องจากต้องการให้เกิดความเท่าเทียมทั้งผู้ค้ารายเดิมและผู้ค้ารายใหม่ หากผู้ค้ารายเดิมประสงค์จะทำการค้าในจุดเดิมก็ยื่นความประสงค์เข้ามาได้ หากแผงค้ามีเพียงพอก็ได้สิทธิ แต่หากแผงค้าไม่เพียงพอก็ต้องจับสลาก รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาประกาศพิเศษ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อใช้บังคับกับพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ วิถีชุมชน ย่านพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ย่านถนนข้าวสาร และย่านเยาวราช ซึ่งทั้ง 2 จุดเป็นจุดที่ยกเว้นตามประกาศฉบับใหม่หลายประการ เนื่องจากบริบทการทำการค้าต่างจากจุดทั่วไป อาทิ ย่านเยาวราชจะเป็นในรูปแบบสตรีทฟู้ด ขนาดแผงค้าหรือรูปแบบการทำการค้าจะยกเว้นตามสภาพและลักษณะการทำการค้า นายสกลธีกล่าวว่า ส่วนถนนข้าวสารมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ จึงต้องจัดวางแผงค้าใหม่ และแบ่งเวลาทำการค้า 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกเวลา 09.00-17.00 น. ช่วงที่ 2 เวลา 18.00-24.00 น. และจัดวางแผงค้าโดยเว้นระยะห่างทางสังคม สามารถจัดแผงค้าได้ 276 แผงค้า จากการแบ่ง 2 ช่วง จะมีแผงค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือ 552 แผงค้า จากการสำรวจผู้ค้าในถนนข้าวสาร เดิมมีผู้ค้าที่ลงทะเบียนถูกต้อง 234 ราย แต่มารายงานตัวเพื่อยืนยันสิทธิเพียง 181 ราย ทำให้มีพื้นที่เหลือจำนวนมาก จะเปิดให้ผู้ที่สนใจมายื่นความประสงค์เพื่อทำการค้าในถนนข้าวสาร นายสกลธีกล่าวว่า ส่วนจุดผ่อนผันเดิม 175 จุด ใน 19 สำนักงานเขต ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดระเบียบ กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจเร่งสำรวจพื้นที่ หากจุดผ่อนผันใดที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามประกาศฉบับใหม่ หรือไม่มีผู้ค้าแล้วให้ยกเลิก ส่วนจุดผ่อนผันใดที่เข้าเกณฑ์ให้ขอประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าต่อเนื่องต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดย กทม.จะยกเว้นให้กับผู้ค้ารายเดิมที่อยู่ในจุดผ่อนผันได้ทำการค้าต่อไปอีก 6 เดือน หลังจากนั้นให้ดำเนินการตามประกาศฉบับใหม่