เขื่อนอุบลรัตน์ปรับการระบายน้ำ ที่ 700,000 ลบ.ม. ต่อวัน ถึง 7 พ.ค. หลังฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำไหลลงอ่างทุกวัน “สมศักดิ์” ย้ำชัด 3 เขื่อนหลักภาคอีสานตอนกลางทำงานเป็นทีม บริหารจัดการรองรับปริมาณน้ำตลอดทั้งหน้าฝนปีนี้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 พ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากพายุฝนที่ตกลงมาอย่าหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันที่ผ่านมาส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่ไหลลงความจุอ่างของเขื่อนอุบลรัตน์ล่าสุดวันนี้อยู่ที่ 3.67 ล้าน ลบ.ม.ขณะที่การระบายน้ำอยู่ที่ 700,000 ลบ.ม. ตามแผนการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์นั้น บางวันมีการระบายน้ำแตะระดับที่ 750,000 ลบ.ม. จากเดิมในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมายู่ที่วันละ 300,000 ลบ.ม. ซึ่งในการพิจารณาปล่อยน้ำที่ระดับ 700,000 ลบ.ม. ในขณะนี้นั้นเป็นการส่งน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ เข้าไปทดแทนมวลน้ำเดิมที่อยู่ในฝาย และหนองน้ำสาธารณะอีกทั้งที่ผ่านมา เขื่อนลำปาวมีการส่งน้ำมาช่วยพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในเขต จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงและขณะนี้เขื่อนลำปาว ต้องเข้าสู่ช่วงของการเก็บกักน้ำแล้ว ดังนั้นการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ก็จะไปทดแทนน้ำของเขื่อนลำปาว ที่ส่งจ่ายมา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนและการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนลำปาวเช่นกัน
“ การระบายที่ 700,000 ลบ.ม. นั้นจะสิ้นสุดในวันที่ 7 พ.ค.นี้ จากนั้นก็จะคงระดับการระบายน้ำที่ 300,000 ลบ.ม. ต่อเนื่องต่อไป ประกอบกับระยะนี้ที่ขอนแก่น และกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลางนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าฝนจะตกในพื้นที่ยาวไปจนถึงวันที่ 4 พ.ค. ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำที่จะไหลลงความจุอ่างและหนองน้ำสาธารณะได้เป็นจำนวนมาก”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำพอง เชื่อมต่อระหว่างเขื่อนอุบลรัตน์,เขื่อนจุฬาภรณ์และเขื่อนลำปาว นั้นทั้งหมดทำงานกันเป็นทีม มีคณะกรรมการคอยกำกับควบคุมดูแลและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว ดังนั้นจากปริมาณน้ำที่มีอยู่นั้นเป็นไปตามเกณฑ์และการประมาณการที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำกำหนด ซึ่งสิ้นสุดฤดูแล้งที่ผ่านปริมาณน้ำเก็บกักและการบริหารจัดการน้ำนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่จังหวัดและคณะกรรมการได้กำหนดไว้ ดังนั้นในระยะนี้เราต้องส่งน้ำไปให้กับเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์เพื่อความสมดุล เพราะทุกเขื่อนต้องทำงานร่วมกัน บริหารจัดการน้ำร่วมกัน
“ การระบายที่ 700,000 ลบ.ม. นั้นจะสิ้นสุดในวันที่ 7 พ.ค.นี้ จากนั้นก็จะคงระดับการระบายน้ำที่ 300,000 ลบ.ม. ต่อเนื่องต่อไป ประกอบกับระยะนี้ที่ขอนแก่น และกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลางนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าฝนจะตกในพื้นที่ยาวไปจนถึงวันที่ 4 พ.ค. ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำที่จะไหลลงความจุอ่างและหนองน้ำสาธารณะได้เป็นจำนวนมาก”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำพอง เชื่อมต่อระหว่างเขื่อนอุบลรัตน์,เขื่อนจุฬาภรณ์และเขื่อนลำปาว นั้นทั้งหมดทำงานกันเป็นทีม มีคณะกรรมการคอยกำกับควบคุมดูแลและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว ดังนั้นจากปริมาณน้ำที่มีอยู่นั้นเป็นไปตามเกณฑ์และการประมาณการที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำกำหนด ซึ่งสิ้นสุดฤดูแล้งที่ผ่านปริมาณน้ำเก็บกักและการบริหารจัดการน้ำนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่จังหวัดและคณะกรรมการได้กำหนดไว้ ดังนั้นในระยะนี้เราต้องส่งน้ำไปให้กับเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์เพื่อความสมดุล เพราะทุกเขื่อนต้องทำงานร่วมกัน บริหารจัดการน้ำร่วมกัน