วันที่ 29 พ.ค. 2563 นางสุกัญญา ชุมอุปการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย สมาชิกเหล่ากาชาดพิจิตร วันนี้ยังคงเดินหน้าเติมสิ่งของใส่ในตู้ปันสุข ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2563 โดยสิ่งของที่ใส่ในตู้ปันสุขล้วนได้มาจากส่วนราชการต่างๆรวมถึงชาวพิจิตรที่ชื่นชมศรัทธาการทำงานของทีมงานเหล่ากาชาดพิจิตรที่ร่วมกันบริจาคสิ่งของ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำปลา นมกล่อง ขนมต่างๆ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 โดยทุกเย็นในช่วงเวลา 16.30 น. ก็จะมีการเติมสิ่งของใส่ในตู้ปันสุข โดยในแต่ละวันก็จะมีประชาชนประมาณเกือบ 100 คน มาเข้าแถวขอรับสิ่งของ ซึ่งสามารถเลือกได้ไม่เกินคนละ 4 ชิ้น การแจกจ่ายสิ่งของผ่านตู้ปันสุขนี้มีขึ้นใน 12 อำเภอของจังหวัดพิจิตร ที่มีทั้งภาคราชการและภาคประชาชนร่วมใจกันตั้งตู้ปันสุขนับรวมแล้วกว่า 40 ตู้ โดยที่ผ่านมาไม่พบปัญหาเรื่องการหยิบสิ่งของไปเกินกว่าที่กำหนดไว้ หรือนำสิ่งของจากตู้ปันสุขไปขาย ดังนั้นถึงวันนี้จึงทำให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากความอดอยากและไม่เกิดปัญหาอาชญากรรมหรือปัญหาสังคมที่มาจากความหิวโหย ซึ่ง นางสุกัญญา ชุมอุปการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการมีตู้ปันสุขที่เกิดขึ้นภายในจังหวัดพิจิตรจะเห็นได้ว่าราษฎรในจังหวัดพิจิตรไม่พบเจอว่าใครเดือดร้อนถึงขั้นที่ไปเป็นขอทาน อีกทั้งประชาชนที่มาขอรับสิ่งของก็มีระเบียบวินัย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกคนก่อนหยิบสิ่งของ ในส่วนของตู้ปันสุขข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรอนาคตจะปรับรูปแบบเป็นตู้ปันสุขแบบเคลื่อนที่ไปตามหมู่บ้าน ชุมชน ตำบล อำเภอ เนื่องจากผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ไม่ได้มีอยู่จุดเดียวยังมีผู้ที่ยากลำบาก ผู้ป่วย คนแก่ คนพิการติดบ้านติดเตียง ที่รอความช่วยเหลือ จึงจำเป็นต้องจัดหาไปช่วยเหลือให้ถึงมือชาวบ้านเหล่านั้น “ดังนั้นต่อจากนี้ตู้ปันสุขของจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ไม่ได้ยุบหายไปไหน แต่จะเป็นในลักษณะเคลื่อนที่ไปหาพี่น้องประชาชน” ในส่วนของภาคประชาชนหรือองค์กรต่างๆก็อยากขอความอนุเคราะห์ให้ทำต่อมีมาก มีเกินพอใช้ ก็ขอให้มาแบ่งปันสิ่งของใส่ตู้ปันสุขเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่เช่นเดิม ทำตามกำลังไม่เดือดร้อนตัวเอง ไม่เดือดร้อนผู้อื่น นางสุกัญญา ชุมอุปการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายฝากถึงผู้ที่มาหยิบสิ่งของว่า “หยิบแต่พอดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ แบ่งปันซึ่งกันและกัน สังคมของจังหวัดพิจิตรจึงจะอยู่อย่างสงบร่มเย็นและเป็นสุข” สิทธิพจน์ พิจิตร