เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานรถเก๋ง CRV มีรอยกระสุนปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าที่ตัวรถ พร้อมทั้งมีปลอกกระสุนตกเกลื่อนพื้น ผกก.สภ.มัญจาคีรี เผยประสานเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุเข้าให้ปากคำแล้ว พร้อมประชาสัมพันธ์หากมีผู้เห็นเหตุการณ์เข้าให้ข้อมูล หรือญาติใครหายตัวไปขอให้รีบเข้าแจ้งความทันที จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์ ริมถนนสายมัญจาคีรี พระยืน บริเวณทางโค้งใกล้ปากทางเข้าบ้านนาฮี ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไปตรวจที่พบรถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีอาร์วี รุ่นปี2013 ทะเบียน กน-6999จันทบุรี มีรอยกระสุนที่ประตูหน้าข้างคนขับ 1 รู และที่ฝาถังน้ำมัน 1 รู ทั้งยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ที่ริมถนนใกล้จุดที่รถถูกไฟไหม้จำนวน 7 ปลอก แต่ไม่พบคนขับและคนเจ็บ ริมถนนยังพบปลอกกระสุนขนาด 9มม.จำนวน 7 ปลอกจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า รถคันเกิดเหตุมีเจ้าของเป็นชาวจังหวัดตราด ซื้อให้แฟนสาวชาวจังหวัดน่านใช้ และแฟนสาวได้แจ้งรถหายเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาตามข่าวทีได้นำเสนอไปแล้ว ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 29 พ.ค.2563 พ.ต.อ.ยุทธการ โสเมือง ผกก.สภ.มัญจาคีรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบชัดเจนแล้วว่า เจ้าของรถเป็นใครอยู่ที่ไหน ได้ขอความร่วมมือให้เจ้าของรถมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ว่ารถคันดังกล่าวใครเป็นคนใช้คนสุดท้าย และที่แจ้งหายนั้น แจ้งหายในพื้นที่ใด บุคคลต้องสงสัยที่เอารถไปเป็นใคร เพื่อจะได้มีข้อมูลในการสืบสวนต่อไปว่า มีใครเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้หรือไม่ "หลังเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ขอนแก่นมาตรวจที่เกิดเหตุ เก็บวัตถุพยานต่างๆในที่เกิดเหตุ ซึ่งตรวจพบปลอกกระสุนขนาด9 มม.เพิ่มอีก 1 ปลอก รวมเป็น 8 ปลอก ส่วนการก่อเหตุนั้น คาดการณ์ว่ารถเก๋งน่าจะเสียหลักชนต้นไม้แล้วถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด9 มม.ยิงซ้ำ โดยคนร้ายน่าจะยืนอยู่ริมถนนในจุดที่พบปลอกกระสุน เล็งไปที่รถ ซึ่งกระสุนถูกรถเพียง 2 นักเท่านั้น อีก 6 นัดไม่ทราบว่าถูกคนที่นั่งในรถหรือไม่ เนื่องจากรถถูกไฟไหม้ จึงไม่มีหลักฐานอื่นหลงเหลือในรถ และไม่ทราบว่าในรถมากันกี่คน จึงอยากให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย รวมถึงคนที่เป็นญาติพี่น้องของคนที่นั่งมาในรถ หากญาติหายตัวไป หรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอด 24 ชม."