ตำรวจสภ.หนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามรวบ“พงษ์ เซียนพระ”พร้อมของกลางพระเครื่องรุ่น พระโพธิสัตว์หลวงปู่บุดดา และเหรียญพระเครื่องหลวงปู่ดอนเกจิดังภาคอีสาน หลังบุกงัดกุฏิ 2 หลังเข้าไปขโมยของภายในวัดโพธิ์ทองหนองกุงเผือก แต่เจ้าตัวยังปากแข็ง อ้างเก็บได้ข้างกำแพงวัด ตำรวจจับตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วงส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย จากกรณีคนร้ายแอบเข้ามางัดกุฏิพระภายในวัดโพธิ์ทองหนองกุงเผือก และขโมยเงินสด พระเครื่อง และทรัพย์สินต่างๆของพระลูกวัด 2 หลังไป สร้างความเดือนร้อนให้กับพระที่จำพรรษาอยู่วัดและสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านอย่างมาก เนื่องจากเป็นการก่อเหตุครั้งที่ 4 แล้ว ล่าสุดวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ ผกก.สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สรวิศ สินนา พนักงานสอบสวน สภ.หนองกุงศรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.หนองกุงศรีควบคุมตัวนายเสถียรพงษ์ แก้วคุณเมือง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 บ้านหนองกุงเผือก ต.ลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์มาสอบปากคำ พร้อมของกลางพระเครื่อง 2 องค์ หลังจากเจ้าหน้าที่นำหมายค้นตรวจยึดได้ที่บ้านพัก โดยมีพระแหลม กุสลจิตโต อายุ 52 ปี และพระสุดใจ ภูงามเขียว อายุ 65 ปี พระลูกวัดโพธิ์ทองหนองกุงเผือก ซึ่งเป็นผู้เสียหาย และนายบุญล้วน ภูสมพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองกุงเผือก หมู่ที่ 6 เข้ามายืนยันของกลางที่ถูกขโมยไป โดยเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เข้าไปขโมยทรัพย์สินในกุฏิ ส่วนพระเครื่อง 2 องค์ที่พบในบ้านนั้นเก็บได้ ร.ต.ต.วิรัตน์ ดวงกรมนา รอง สว.สส.สภ.หนองกุงศรี กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งมิจฉาชีพบุกขโมยทรัพย์ของพระในวัดโพธิ์ทองหนองกุงเผือก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกุงศรีไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดกำลังชุดสายสืบ สายตรวจตำบล ประสานความร่วมมือกับผู้นำชุมชน ในการติดตามหาเบาะแสคนร้าย ทั้งนี้ เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุและภายในชุมชน ไม่มีกล้องวงจรปิด จึงได้ติดตามหาเบาะแสคนร้ายจากพยานบุคคลและพยานแวดล้อม ก่อนพบบุคคลผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นเซียนพระในกลุ่มวัยรุ่นในชุมชนดังกล่าว คือนายเสถียรพงษ์ แก้วคุณเมือง อายุ 22 ปี ซึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย ก่อนขอหมายค้นศาล จ.กาฬสินธุ์ เข้าทำการตรวจค้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 63 เวลา 06.00 น. ซึ่งได้พบของกลางเป็นพระเครื่องของพระแหลมภายในห้องนอนของผู้ต้องหา ก่อนนำตัวมาสอบสวน และตรวจปัสสาวะ พบมีสารเสพติด ทั้งนี้เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่าพระเครื่องทั้งสององค์นั้นเก็บได้ที่ข้างกำแพงวัดหลังเมรุใกล้กับกุฏิที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ อีกทั้งยังมีพยานและหลักฐาน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนและและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้านพระแหลม กุสลจิตโต กล่าวว่า เหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวน แอบบุกขึ้นกุฏิขโมยทรัพย์สิน ขณะไปทำวัตรเช้านั้น เกิดขึ้นเวลาประมาณ 04.00 น.ของเช้าวันที่24 พ.ค.63 ที่ผ่านมา จากนั้นตนและพระสุดใจได้แจ้งความกับผู้ใหญ่บ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับผู้ต้องหาและนำของกลางมาคืนได้ในวันนี้ ทั้งนี้พระเครื่องที่ถูกขโมยไปดังกล่าว เป็นพระเครื่องรุ่น พระโพธิสัตว์หลวงปู่บุดดา และเหรียญพระเครื่องหลวงปู่ดอน จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่องหรือวัตถุมงคล ส่วนธนบัตรจำนวน4,000 บาทนั้นไม่ได้คืน ขณะที่นายเสถียรพงษ์ แก้วคุณเมือง ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนชอบสะสมพระเครื่องมาตั้งแต่เด็ก โดยติดตามพระอาจารย์หลายรูป รวมทั้งหลวงพ่อเณร ไปหลายพื้นที่ เพื่อปฏิบัติธรรมและประกอบพิธีพุทธาภิเษก พระเครื่องและวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ จึงมีความเลื่อมใสและนิยมวัตถุมงคลมากนอกจากนี้ยัง เคยบวชพราหมณ์ด้วย ซึ่งพระเครื่องที่ได้มาและเก็บสะสม ได้จากพระอาจารย์บ้าง ได้จากการไปร่วมพิธีปลุกเสกบ้าง และเช่าจากบุคลในวงการพระเครื่อง แต่สำหรับพระเครื่องรุ่น พระโพธิสัตว์หลวงปู่บุดดา และเหรียญพระเครื่องหลวงปู่ดอน ที่เป็นของกลางนี้ ตนไม่ได้ไปขโมยของพระมา แต่เก็บได้หลังเมรุข้างกฏิหลวงพ่อ ทั้งนี้ เนื่องจากนายเสถียรพงษ์ แก้วคุณเมือง อายุ 22 ปี แต่นิยมสะสมพระเครื่องรุ่นต่างๆ เป็นจำนวนมาก ในกลุ่มวัยรุ่นจึงตั้งฉายาให้ว่าพงษ์ เซียนพระ