วันที่ 28 พ.ค. นายสัตวแพทย์จามร ศักดินันท์ หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า หลังจากพบม้าป่วยตายในพื้นที่ อ.หัวหิน 18 ตัว โดยมีการประกาศเขตควบคุมโรคระบาดสัตว์ในพื้นที่ อ.หัวหิน เพื่อดำเนินการควบคุมโรค สำหรับข้อมูลจำนวนม้าในจังหวัดมี 598 ตัว พื้นที่ อ.หัวหิน มีมากที่สุด 287 ตัว รองลงมาคือ อ.ปราณบุรี 114 ตัว เจ้าหน้าที่ได้ออกฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในฟาร์มที่เกิดโรค ส่วนฟาร์มที่ยังไม่เกิดโรคในรัศมี 50 กิโลเมตร รอบจุดเกิดโรคจะเน้นการใช้ยาพ่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อม้าและคนเพื่อกำจัดแมลงดูดเลือดซึ่งเป็นพาหะนำโรคสัปดาห์ละ 1 ครั้ง “ได้สนับสนุนการติดตั้งมุ้งกันแมลงดูดเลือดให้เกษตรกร 77 ราย สนับสนุนหญ้าแห้งให้แก่ฟาร์มม้าที่เกิดโรคกว่า 40,000 กิโลกรัม พร้อมดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับม้า 407 ตัว และหลังการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจระดับภูมิคุ้มกันของโรคในม้าโดยจะทำการสุ่มเจาะเลือดม้า 85 ตัว นำไปตรวจเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าวัคซีนสามารถป้องกันโรคได้ในระดับใด ส่วนแผนดำเนินการต่อไปในเดือนมิถุนายนนี้ จะเก็บตัวอย่างแมลงดูดเลือดในพื้นที่เกิดโรค ตรวจโรคม้าลาย 4 ตัวในพื้นที่ อ.หัวหิน สำหรับม้าที่อยู่นอกรัศมีการเกิดโรค ตั้งแต่ 50-100 กม. มีแผนการฉีดวัคซีนให้กับม้าแต่ต้องรอการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ” นายสัตวแพทย์จามร กล่าวอีกว่า สถานการณ์โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าจะเข้าสู่สภาวะปกติได้ เมื่อไม่พบม้าป่วยตัวใหม่เป็นระยะเวลา 90 วัน หลังจากพบม้าป่วยตัวสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 ส่วนกรณีของม้าชายหาดหัวหินที่ให้บริการนักท่องเที่ยว กรมปศุสัตว์ จะเสนอคณะกรรมการวิชาการเพื่ออนุญาตให้ม้าที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 30 วัน สามารถออกนอกมุ้งได้ในช่วงเวลา 10.00 น.- 16.00 น.หากนานกว่านั้นจะต้องใช้ยาฉีดพ่นบนตัวม้าเพื่อป้องกันแมลงดูดเลือดซึ่งเป็นยาชนิดที่ปลอดภัยต่อม้าและคน