เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 28 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เจษฎาภรณ์ อ่อนทองคำ รอง ผกก.สส.2, พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายภูริ หรือเอ๋ วงศ์คงคำ อายุ 56ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 7 ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ที่ 77/2562 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น(เงินสด)” โดยจับกุมตัวได้บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เมื่อเวลา 13.10 น.ของวันนี้ ( 28 พ.ค.63) เพื่อนำส่ง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย พฤติการณ์การจับกุมในคดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 11 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. นำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น.(ในขณะนั้น) ได้จับกุมนายภูริชญา หรืออาณัชยาทร หรือเอ๋ วงศ์คงคำ ตามหมายจับศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ที่ 159/2550 ลง 30 พ.ย.59 ในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งขณะนั้นผู้ต้องหาได้ก่อเหตุแต่งกายปลอมเป็นตำรวจยศ “พ.ต.อ.” ออกตระเวนหลอกตีสนิทกับหญิงสาวตามสถานที่ต่างๆ หากเหยื่อหลงเชื่อจะพูดจาหว่านล้อมเพื่อหลอกเอาเงิน ซึ่งมีหญิงสาวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลงเชื่อตกลงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากว่า 2 ปี จนถูกจับกุมตัวดังกล่าว นำส่ง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดี และศาลตัดสินให้จำคุก 6 เดือน ในระหว่างที่จำคุกในเรือนจำจังหวัดสุราษฎรณ์ธานี ก็ได้ก่อเหตุหลอกลวงเพื่อนักโทษในคดียาเสพติดในเรือนจำดังกล่าว ว่ารู้จักผู้ใหญ่ในรัฐบาลมากมาย ซึ่งสามารถช่วยนักโทษดังกล่าวให้ออกจากเรือนจำได้ ซึ่งทางนักโทษดังกล่าวหลงเชื่อ จึงแจ้งให้ผู้ต้องหาไปเอาเงินกับภรรยา จำนวน 300,000 บาท เมื่อได้เงินแล้วก็หลบหนีไป ภรรยาของนักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฉ้อโกงเงินสดตามกฎหมาย ศาลได้ออกหมายจับไว้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวเปิดเผยว่า ต่อมาทางชุดจับกุมได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลังจากก่อเหตุหลอกเอาเงินดังกล่าวไปแล้ว ได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี และทำการเปลี่ยนชื่อและทำบัตรประชาชนใหม่จากชื่อนายภูริชยา วงศ์คงคำ เป็นชื่อนายภูริ วงศ์คงคำ จนกระทั่งวันนี้ได้รับแจ้งจากสายว่า ผู้ต้องหานี้มีพฤติการณ์มาหลอกลวงเหยื่อรายใหม่ในพื้นที่ จ.ระยอง อีกตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.จึงวางแผนในการสืบสวนจับกุมและนำกำลังลงพื้นที่ จนมาพบผู้ต้องหาเดินอยู่หน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ระยอง จึงเข้าจับกุมตามหมายจับ ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหา ยอมรับว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ส่วนสาเหตุเพราะต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอมให้ลูก 2 คน หลังจากก่อเหตุก็ได้เปลี่ยนชื่อและไปทำอาชีพค้าขายชานมไข่มุกออนไลน์ที่ จ.ระยอง จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ เปิดเผยต่อท้ายอีกว่า นอกจากคดีนี้แล้วตอนผู้ต้องหายังหายังมีพฤติกรรมเที่ยวหลอกเหยื่อว่าตัวเองเป็นแพทย์ ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามหาตัวผู้เสียหายให้มาแจ้งความเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตามกฎหมาย และหากใครที่เคยถูกผู้ต้องหาหลอกก็ให้มาดูตัวและแจ้งความดำเนินคดีต่อไป