“บิ๊กตู่” ยัน ใช้กฎหมายดูแลปชช.ร่วมกัน ไม่แบ่งแยกรวย-จน ย้ำ ทุกคนมีหนี้ กู้เพื่อ “รักษา - เยียวยา - ฟื้นฟู” ประเทศ รับไม่มีเงินมากพอดูแลทุกกลุ่ม บอก ขอบคุณส.ส.เป็นคนร่วมชาติ ต้องทำงานร่วมกัน เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจง ว่า ตนรับทราบถึงความห่วงใย และความกังวลของส.ส.ทุกคน สำหรับเรื่องของคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และเข้าสู่สถานที่กักกันของรัฐบาลที่รัฐดูแลทั้งหมด ที่ผ่านมามีปัญหาการลักลอบข้ามแดน ผ่านแดน ซึ่งตนเข้าใจความจำเป็นของเขา แต่ตนไม่ได้สนับสนุน ที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรน เช่น การเสียค่าปรับ 2,000 บาท ลดลงเหลือ 800 บาท ถ้ามองว่าเป็นภาระมันก็ใช่ แต่ถามว่าเราจะเอากฎหมายไว้ตรงไหน ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการหารือกันต่อไปว่าจะทำอย่างไร สำหรับจำนวนคนที่เข้ามาในวันเดียวนี้มีมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรต้องเพียงพอกับขีดความสามารถในการรักษาและสถานที่จัดการของรัฐและเอกชน หากมองในเรื่องสิทธิที่จะทำอย่างเท่าเทียมกันนั้นก็ต้องดูกฎหมายด้วย ซึ่งไม่ได้เขียนไว้เพื่อคนรวย คนจน แต่เป็นกฎหมายกลางที่ใช้ดูแลร่วมกัน ทั้งนี้ ถ้าดูตามตัวเลขที่เสนอกันมาก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินตรงไหนมาดูแล หากเงินเพียงพอตนก็เห็นด้วย แต่ถ้าเราไม่มีหลักเกณฑ์ไม่มีอะไรเลย คนจะเท่าเทียมกันทั้งหมดมันจะได้หรือไม่ ขอให้คิดง่ายๆ ตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยทำได้ดีอย่างนี้ ต่างประเทศชื่นชม แต่คนไทยลำบาก ตนทราบ และไม่สบายใจยิ่งกว่าท่าน ตนต้องรับผิดชอบเขา แต่จะดูแลอย่างไร แล้วจะใช้จ่ายเงินนี้ให้เหมาะสมอย่างไร ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาเขาดำเนินการไปหมดแล้ว โดยใช้งบประมาณเดิม ส่วนเงิน 45,000 ล้านบาทนี้ ยังไม่ได้ใช้เลย ซึ่งเงินนี้จะเตรียมพร้อมไว้ใช้ในเรื่องของมาตรการสาธารณสุขที่อาจจะยืดยาวอีกต่อไป ซึ่งเรื่องสิทธิประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ มีงบประมาณของเขา ซึ่งถ้าไม่พอก็สามารถเบิกขึ้นมาได้ รัฐบาลไม่ทิ้งไว้ ไม่ปล่อยให้ไม่ได้เงิน ขอแค่ดูว่ามีการโกงกันหรือไม่ คงไม่มีในตอนนี้ เพราะยับยั้งไว้อยู่แล้ว ขอให้สบายใจว่ารัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว “ทุกคนเสียภาษี ผมก็เสีย ท่านเป็นหนี้ ผมก็เป็นหนี้ แต่เราจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ให้มากขึ้น หนี้เกิดมาก่อนแล้ว รัฐบาลนี้ทำให้ต่ำกว่าเดิม และที่ขึ้นมาก็เพราะเงินก้อนนี้ เพื่อรักษา เยียวยา และฟื้นฟูประเทศ ทุกอย่างมีกรอบที่ชัดเจน บริหารตามกฎหมายทุกตัว อยากให้รัฐจ่ายเงินเร็วก็ต้องไปดูทะเบียน ท่านต้องรู้จักหน้าที่คือลงทะเบียน แก้ไขให้ถูกต้อง จะต้องไม่ซ้ำซ้อน และเงินที่ให้ช่วงนี้ก็เพื่อดำรงชีพ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินเยียวยาที่รัฐบาลให้ไปเพื่อการดำรงชีพ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ฉะนั้นการที่มาบอกว่าจะเป็นหนี้อย่างนั้น อย่างนี้ มันก็เป็นหนี้กันทั้งนั้นแหละ ตรงนั้นจะต้องดูว่าจะปรับเปลี่ยนตัวเอง และพัฒนากันอย่างไร รัฐบาลจะสนับสนุนตรงไหน ซึ่งก็มีการเข้าไปดูแลในเรื่องหนี้นอกระบบ แต่ช่วงนี้เป็นเรื่องการเยียวยา เพื่อดำรงชีพ 3 เดือน คงไม่สามารถนำเงินเหล่านี้ไปผ่อนมอเตอร์ไซต์ หรือผ่อนรถได้ ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลก็มีหลักคิด แต่ไม่ขอว่าอะไรในสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมด แม้แต่เรื่องการเสียภาษี รัฐบาลก็ไม่เคยขึ้นมีแต่ลดให้ด้วยซ้ำไป ถ้าหากจะให้ใช้เงินมากๆ ก็ต้องย้อนมาดูว่าจะเอาเงินจากไหน ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้ แม้แต่เรื่องนักศึกษาตนก็เห็นใจ แต่ต้องดูว่าจำนวนนักศึกษามีเท่าไหร่ เราต้องทยอยก่อนหรือไม่ เอาใครที่อยู่ในระบบก่อนได้หรือไม่คนที่ขึ้นเป็นสมาชิกก่อนได้หรือไม่ เพื่อลดจำนวนการใช้จ่ายลง แต่จะให้ดูทั้งล้านสองล้านคนประมาทไป เหมือนกับกรณีด้านการเกษตรก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามันทำไม่ไหวหรอก ตนคงไม่ก้าวล่วงกลับไปที่เดิม ตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใครไม่อยากพูด ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ขอให้เข้าใจกันด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการเรียนได้อธิบายไปแล้ว โดยตนได้มอบนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการไปแล้วว่าทำอย่างไร ในช่วงสถานการณ์โควิด โรงเรียนเปิดไม่ได้ นักเรียนจะไม่ลืมการเรียน เพียงแต่ต่อเติมใช้ระบบออนไลน์ ระบบทางไกลผ่านดาวเทียม ขอให้ดูในรายละเอียดซึ่งมีมากมาย เพื่อที่จะได้พูดคุยกันรู้เรื่อง ถ้าตั้งตัวว่าสิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี ตนถามว่าแล้วจะพูดคุยกันรู้เรื่องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณส.ส. เราเป็นคนร่วมชาติกัน ฉะนั้นต้องหาทางที่จะทำงานร่วมกันให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า แม้จะมีพ.ร.บ.ควบคุมโรค แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด แพร่ระบาดไปหลายจังหวัดจึงต้องมีกฎหมายตามออกมา เพื่อให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ผลจากการใช้กฎหมายดังกล่าวถือว่าดี หากไม่ใช่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็จะอลหม่านไปหมด รัฐก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือรัฐบาลอีก รัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีความจำเป็น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ทุกวันนี้ตนได้บริหารออกเป็น 6 ภาคมี 3 จังหวัดภาคใต้มาอีก 1 ภาค มีโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจใหม่ภาคใต้ พวกท่านต้องไปสานต่อในสิ่งที่รัฐบาลออกไปแล้ว ส่วนพ.ร.ก.ฉุกเฉินในภาคใต้ที่ใช้มา 16 ปี ถามว่าแล้วปัญหาจบหรือยัง มันก็ยังไม่จบ ยังมีการลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าที่ ถามว่าคนส่วนใหญ่จะปลอดภัยได้อย่างไร และไม้ได้ห้ามใครไปไหนมาไหน ใช้เฉพาะที่จำเป็นเมื่อเกิดเหตุการณ์สถานการณ์ใช้กฎหมายปกติไม่เพียงพอ ขอให้เข้าใจว่ามีการใช้หนักเบากันได้ เว้นแต่บางเรื่องที่ให้ไม่ได้ เพราะต้องคำนึงความปลอดภัยคนจำนวนมาก แม้แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีใครอยากลงไปทำ แต่ก็ปฏิเสธกฎหมายไม่ได้ เพราะคนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตาม และเคารพกฎหมาย ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้เพื่อให้เข้มแข็งต่อไปในวันข้างหน้า หากทุกคนช่วยรัฐบาลโดยไม่ถือว่าเป็นฝ่ายใด ตนคิดว่าประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้โลด ฉะนั้นอะไรที่ดีกรุณาส่งเสริม ถ้ามองว่าไม่ดีทั้งหมด ผมว่าไม่ใช่ ผมก็ฟังมาทุกอันต้องขอบคุณสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกคน