เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.63) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. บูรณนาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ร่วมกันจับกุมนายทศพล หรือ ป่าน (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 123/2563 ลง 21 พ.ค. 63 ในขัอหาว่า ฉ้อโกง ได้ที่ ม.1 ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้เล่นเกมออนไลน์ (ซึ่งเป็นเกมที่มีการสร้างตัวตนบนโลกโซเชียลสามมิติโดยเกมนี้สามารถแชทกับเพื่อนและจำลองสถานการณ์เสมือนจริงกับผู้เล่นอื่น) และได้รู้จักกับนายป่าน โดยมีการพูดคุยในเกมออนไลน์ ซึ่งนายป่านได้หลอกลวง น.ส.เอ อ้างว่าตนเป็นลูกเจ้าของร้านอาหารที่ฮ่องกง มีหน้าที่ดูแลกิจการร้านอาหารที่ฮ่องกง ต่อมาต้นเดือนมิ.ย.62 นายป่าน ได้หลอกลวง น.ส.เอ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าย่าของนายป่าน ป่วยเป็นมะเร็ง พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ไม่มีเงินรักษาต้องการใช้เงินด่วน ซึ่งนายป่าน หาทางส่งเงินให้ญาติไม่ได้ เพราะร้านส่งเงินปิดหมด และได้บอกว่าตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 20 มิ.ย.62 ที่จองไว้เลื่อนตั๋วไม่ได้ จึงบอกให้ น.ส.เอ โอนเงิน 20,000 บาท เข้าบัญชีของนายต้น ซึ่งอ้างว่าเป็นญาติของนายป่าน ไปให้ก่อนและน.ส.เอ หลงเชื่อจึงได้โอนเงินจากบัญชีไป หลังจากที่ น.ส.เอ ได้โอนเงิน 20,000 บาทแล้ว ต่อมาอีก 2 วัน นายป่าน ได้ติดต่อ น.ส.เอ อีกครั้งว่าต้องการใช้เงินจำนวนมากให้ น.ส.เอ ไปกู้เงินมาให้ 20,000 บาท โดยสัญญาว่าเ มื่อกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 20 มิ.ย.62 จะเคลียเงินคืนให้ น.ส.เอ ตามที่ได้บอกให้ น.ส.เอ จึงโอนเงินเข้าบัญชีญาติของนายป่าน ตามที่นายป่าน บอกและในครั้งสุดท้ายนายป่าน ยังคงติดต่อ น.ส.เอ ผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นเดิมว่าให้ช่วยหาเงินอีก 10,000 บาท เป็นครั้งสุดท้าย โดยให้โอนเช้าบัญชีที่นายป่าน อ้างว่าเป็นญาติ ซึ่ง น.ส.เอ ก็ยอมโอนให้ตามเดิม จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย.62 นายป่าน ไม่สามารถมาประเทศไทยได้ และได้เลื่อนการกลับประเทศไทยมาโดยตลอดและเมื่อ น.ส.เอ ทวงถามเรื่องเงินที่โอนไปให้ นายป่าน ก็ผลัดผ่อนมาตลอดและต่อมา น.ส.เอ ทราบเรื่องต่างๆที่นายป่าน บอกนั้นไม่เป็นความจริงจึงรู้ว่าถูกหลอก และไม่สามารถติดต่อนายป่านได้อีก จึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ให้ดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ในหมู่ที่ 1 ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ จึงได้บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 สภ.ห้วยราช และชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อตรวจสอบพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้จับนายป่าน ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.ท่าข้าม ดำคดีต่อไป สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนรู้จักกับ น.ส.เอ เป็นเวลานานผ่านทางเกมออนไลน์ โดยตนใช้ชื่อในเกมส์ว่า “U1DIL”และได้เปลี่ยนชื่อไปแล้วซึ่งตนไม่ได้เล่นเกมนี้มาสักพักเนื่องจากโดนบล็อกของระบบโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองประกอบอาชีพเป็นพ่อครัวอยู่ในฮ่องกง ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่อย่างใดการที่ตนได้หลอก น.ส.เอ นั้นตนเองอยากได้รองเท้าซึ่งมีราคาแพง จึงออกอุบายว่า ย่าของตนป่วยให้โอนเงินไปยังบัญชีเพื่อนของตน ซึ่งเงินที่ได้มาก็นำไปซื้อของตามที่ตนอยากได้ และอ้างว่าเงินบางส่วนได้ใช้คืนผู้เสียหายไปบ้างแล้ว ซึ่งตนพึ่งกลับมาที่ประเทศไทย เพราะมีเหตุการณ์ไม่สงบที่ฮ่องกง มีอาชีพออกแบบเสื้อผ้าในเกมออ