"ก้าวไกล" สานงานสอย "ธรรมนัส" ต่อ ยื่น ปธ.สภา ส่งศาล รธน. วินิจฉัยหลุด รมต. หรือไม่ ด้าน "ธีรัจชัย" วอนมาดำเนินคดีที่ กทม. อ้างเป็นภาระเกินเหตุ ลั่นพร้อมซักถามทุกเรื่อง เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในกรณีที่จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ขาดคุณสมบัติความรัฐมนตรีหรือไม่ โดยมีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภา เป็นผู้รับหนังสือ โดยนายชัยธวัช ระบุว่า ทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 54 คน ได้ร่วมลงชื่อเพื่อขอให้ทางประธานสภาฯ ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ตุลาการฯ ยื่นวินิจฉัยใน 2 กรณี คือ สมาชิกภาพของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีการถือหุ้นในตลาดคลองเตย และ กรณีที่เคยถูกพิพากษาในคดีที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลียซึ่งใน 2 กรณีนี้ จะนำไปสู่การขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส มีการฟ้องดำเนินคดีกับสมาชิกพรรคฯ นั้น ทางพรรคยืนยันว่า เรามั่นใจในข้อเท็จจริง ที่ได้อภิปรายเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และไม่หวั่นเกรงว่า จะมีการใช้กระบวนการทางกฎหมาย ข่มขู่หรือปิดปาก ของผู้แทนราษฎรของพรรค ด้านนายณัฐชา ระบุว่า ในกรณีการถือครองหุ้นในบริษัท ตลาดคลองเตย 2551 จำกัด ของนางอริสรา พรหมเผ่า คนใกล้ชิดของ ร.อ. ธรรมนัสนั้น เนื่องจากบริษัทดังกล่าว ณ วันที่ 24 มีนาคม 2562 หลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัส ได้รับตำแหน่ง ส.ส. แล้ว นางอริสรา ยังถือครองหุ้นกว่า 85 % ซึ่งตลาดดังกล่าว ถือครองสัญญาเช่ากับหน่วย งานของรัฐก็คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ภายใต้การกำกับของกระทรวงคมนาคม ซึ่งทางพรรคได้อภิปรายไว้แล้ว ขณะที่นายธีรัจชัย ระบุว่า สืบเนื่องจากที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา และเป็นประเด็นที่ ประชาชนสงสัยว่า ร.อ.ธรรมนัส ติดคุกจริงหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ประชาชนมามอบให้ รวมทั้ง การประสานงาน ข้อมูลของทางคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ จนได้ตัวคำพิพากษามา ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะใส่ร้ายหรือใส่ความ ร.อ.ธรรมนัส แต่เป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. ฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบการเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ และตนเห็นว่า สิ่งที่ได้ทำแล้วนั้น น่าที่จะไปต่อ การสืบต่อในสิ่งที่ทำไปแล้ว คือการยื่นศาลรัฐธรรมนูญผ่านทางประธานรัฐสภาเพื่อให้วินิจฉัย ตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ “การที่ ร.อ.ธรรมนัส ที่ได้กรุณาแจ้งความผมและคุณณัฐชา ที่ สภ. เมืองพะเยา นั้น ผมเรียนว่า จริงๆ แล้ว พวกเราทำในกรอบกติกาทางการเมือง ไม่ได้คิดถึงกระบวนการทางกฎหมาย และการไปแจ้งความที่พะเยานั้นถือว่าเป็นภาระเกินเหตุ ให้แก่คู่กรณี ซึ่งถ้าจะให้ดี กรุณามาดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ มาให้พวกเราสู้คดีโดยไม่จำเป็นต้องมีภาระ เราเสียเวลาทำงานเพื่อประชาชน พบปะประชาชน ดังนั้น การที่มาดำเนินคดีที่กรุงเทพ จะได้สะดวกกับการซักค้านของพวกผม อีกทั้ง ทางคณะกรรมการ ปปช. ยังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ โดยตนจะเชิญ ร.อ.ธรรมนัส มายัง กมธ.ปปช. โดยผมจะเป็นฝ่ายซักถามท่านเองในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องที่ดำเนินคดีกับผมในเรื่องของการหมิ่นประมาทด้วย ” นายธีรัจชัยกล่าว