นายมงคล อุ่ยตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพีอี ปริ้นติ้ง แอนด์ แพ็กเกจจิ้ง จำกัด เริ่มธุรกิจจากจุดเริ่มต้นที่สงสัยว่า ซองเล็กๆ ในบรรจุภัณฑ์ขนม มีไว้ทำไม เมื่อปี 2549 หลังจากนั้นก็ได้คำตอบว่าเป็นที่ใส่สารดูดซับออกซิเจน ทำหน้าที่ดูดอากาศและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียในบรรจุภัณฑ์ มุ่งมั่นทำธุรกิจซองดูดซับสารออกซิเจนได้ 2- 3 ปี ลูกค้าเจอปัญหาใช้งานไม่ได้ เกิดแรงบันดาลใจแตกไลน์ทำธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง เพื่อแก้ปัญหาซองดูดซับสารออกซิเจนเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด จนธุรกิจขยายตัวเติบโตต่อเนื่องได้สร้างโรงงานใหม่และรับผลิตตามออร์เดอร์มากขึ้น แบ่งสัดส่วนการผลิตแพ็กเกจจิ้ง 60% ซองดูดซับสารออกซิเจน 40% ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวเรื่องโควิด-19 แพร่ระบาด ยังประเมินไม่ได้ว่าจะกระทบกับธุรกิจอย่างไรบ้าง แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมตัวรับมือและทำตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ มีการวัดไข้พนักงานก่อนเข้าโรงงาน เพิ่มมาตรการรักษาความสะอาด วิกฤติครั้งนี้บริษัทได้รับผลกระทบทางอ้อม เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ทำธุรกิจขายส่งให้กับร้านขายของฝาก เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวทำให้ยอดขายตกวูบและได้รับผลกระทบ ลูกค้าส่วนใหญ่มาขอประนอมหนี้ บางรายขอพักหนี้ เพราะไม่มีรายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่ธุรกิจ ถ้าบริษัทไม่มีเงินจ่ายให้ซัพพลายเออร์ ก็ไม่มีวัตถุดิบมาผลิต กระทบไปถึงพนักงานและครอบครัว ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือกันหาทางออก เพื่อผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้
ในวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ จากการเริ่มต้นทำธุรกิจ มีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนจันทน์อยู่เคียงข้างมาตลอด เพราะการทำธุรกิจจำเป็นต้องมีเงินสด ซึ่งเงินที่บริษัทสำรองไว้มีจำกัดซึ่งก็เป็นความโชคดีที่ธนาคารกรุงไทยเข้ามาช่วยได้ทันเวลา อนุมัติสินเชื่อ Soft Loan 2% รวดเร็วมาก สามารถต่อลมหายใจของธุรกิจให้เดินต่อไป สามารถบริหารได้คล่องตัวขึ้น มีเงินชำระค่าวัตถุดิบ กระบวนการผลิตไม่ติดขัด ทุกวันนี้ผมยึดหลักในการทำธุรกิจว่า “ถ้าลงมือพายแล้วอย่าหยุดพาย ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ยอมรับความจริง พูดความจริง อย่ากลัวเสียหน้า เรียนรู้วิกฤติที่เกิดขึ้น ขอบคุณธนาคารกรุงไทยที่อยู่เคียงข้างพีพีอี ปริ้นติ้ง แอนด์ แพ็กเกจจิ้ง เหมือนกับที่ผมยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าและซัพพลายเออร์” ธนาคารกรุงไทยพร้อมเคียงข้าง ลุยช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อ ในวงเงินรวมกว่า 1.12 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 ลูกค้าสินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับ และลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 4 เดือน ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากสัญญากู้เดิมนาน 4 เดือน มาตรการที่ 2 ลูกค้าบุคคลและลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่มีเอกสารแสดงรายได้ลดลง พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) นาน 6 เดือน ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี จากสัญญากู้เดิมนาน 6 เดือน มาตรการที่ 3 ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือนอัตโนมัติ มาตรการที่ 4 ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป ที่มีเอกสารแสดงรายได้ลดลง พักชำระหนี้เงินต้นวงเงินสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) สูงสุด12 เดือน ขยายระยะเวลาชำระหนี้สำหรับตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N)และสินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ สูงสุด 6 เดือน มาตรการที่ 5 ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท สนับสนุนสินเชื่อ Soft Loan วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2562 ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2% ต่อปี พักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย 6 เดือนแรก ลูกค้าธนาคารติดต่อขอรับความช่วยเหลือในมาตรการต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการได้ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ krungthai.com/covid19 และ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111