คุมเข้ม 20 คาเฟ่สุนัข-แมว กำชับยึด 12 ข้อปฏิบัติ ขณะตลาดจตุจักรให้ปชช.สแกน "ไทยชนะ" ทั้งเช็กอินและเช็กเอาต์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.63 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 49/2563 โดยให้มีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการค่าเฟ่สัตว์เลี้ยง ซึ่งมีข้อพึงปฏิบัติ 12 ประการ ทั้งนี้ ในพื้นที่กทม.มีสถานประกอบการลักษณะดังกล่าว 20 แห่ง ประกอบด้วย คาเฟ่สุนัข 11 แห่ง คาเฟ่แมว 5 แห่ง และค่าเฟ่สัตว์ประเภทอื่นๆ 4 แห่ง โดยได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานเขตพื้นที่ที่มีสถานที่มีสถานประกอบการดังกล่าว ตรวจแนะนำอย่างเข้มข้น และกำชับให้เจ้าของสถานประกอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตรวจแนะนำโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการสแกนคิวอาร์โค้ดของแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ" ซึ่งกทม.ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่กทม. จัดทำคิวอาร์โค้ดของแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ" ให้ประชาชนที่จะเข้าไปใช้บริการสแกนเช็คอิน-เช็คเอาท์ ก่อนและหลังเข้าไปใช้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนด้วยดี สำหรับในตลาดนัดจตุจักรซึ่งเป็นตลาดนัดในการดูแลของกทม. จะมีการจัดทำคิวอาร์โค้ดของแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ" และจะจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บริเวณประตูทางเข้า เพื่อขอความร่วมมือสแกนเพื่อเช็คอินก่อนเข้าใช้บริการตลาดนัดและเช็คเอาท์ก่อนออกจากตลาดนัด อย่างไรก็ดี เนื่องจากตลาดนัดจตุจักรมีลักษณะเป็นตลาดเปิด ประชาชนหมุนเวียนเข้าออกร้านค้าต่างๆ ภายในตลาด จึงไม่ได้กำหนดให้ผู้ค้าภายในตลาดจัดทำคิวอาร์โค้ดของแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ" เป็นการเฉพาะในส่วนของร้านค้าต่างๆ แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำตลาดนัดจตุจักรประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เพื่อขอความร่วมมือให้ประชาชนรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่เข้าไปแออัดในร้านหนึ่งร้านใด ทั้งนี้ เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อไป