นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เห็นควรต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน จากเดิมเป็นวันที่ 31 พฤษภาคม ออกไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ ดังนั้นทางกระทรวงฯ จึงเตรียมผลักดันให้ประกาศปลดล็อคการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างเป็นทางการภายในเดือนมิถุนายน ต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) วันศุกร์ ที่ 29 มิถุนายนที่จะถึง โดยเบื้องต้นอาจจะสนับสนุนให้มีการเดินทางไปยังจังหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อนานกว่า 21 วัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะครอบคลุมการเปิดให้เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด การเปิดโรงแรม การเปิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด โดยสอดคล้องกับการปลดล็อตเฟสที่ 3 ในเดือนมิถุนายน รวมทั้งจะมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการแจกคูปองคนไทยเที่ยวไทย เพื่อส่งต่อรายได้สู่ผู้ประกอบการในเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน โดยแนวทางการปลดล็อกจะเสนอให้แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะแรกจะอนุญาตให้มีการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคมีการทดลองเป็นเวลา 15 วัน ก่อนที่จะปลดล็อกให้มีการท่องเที่ยวทั่วประเทศในระยะที่ 2 ต่อไป พร้อมกันนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เตรียมหารือกับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ในการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งถ้าสามารถรองรับได้ อาจจำกัดการเดินทางให้อยู่เฉพาะจังหวัดดังกล่าว เพื่อสะดวกต่อการติดตามและเฝ้าระวัง โดยคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มกลับมาเที่ยวเมืองไทยช่วงไตรมาสที่ 4 นี้เป็นต้นไป และน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และตลอดทั้งปีมีชาวต่างชาติมาไทยที่ 14-16 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมตั้งเป้าว่าตลอดปีนี้จะมีชาวต่างชาติมาไทยที่ 14-16 ล้านคน