บล.โกลเบล็ก ลุ้นคลายล็อกดาวน์เฟส3 ลุ้น หนุนดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320-1,350จุด แนะจับตาการประชุมสภาฯ 27-29 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท รวมถึงการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยจากธปท.ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ พร้อมส่งสัญญาณตัวแปรกดดันอย่างสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ที่จะเข้ามาฉุดตลาดหุ้น แนะกลยุทธ์การลงทุน เตรียมช้อน 3 หุ้นเด่นผลประกอบการQ2/63 ส่อแววสวยอาทิ WICE-TASCO และ CPF น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากคาดหวังกรณีพิจารณาผ่อนปรนในระยะ 3 และ 4 ตามลำดับ พร้อมทั้งการปรับเวลาเคอร์ฟิวให้สอดคล้องกัน รวมทั้งประเด็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมหารือปลดล็อกการเดินทางท่องเที่ยวภายในเดือนมิ.ย.นี้ ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยมองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,320-1,350 จุด ทั้งนี้ในทางกลับกันหากพิจารณาปัจจัยภายนอกประเทศยอมรับว่า ดัชนียังมีแรงกดดันต่อกรณีที่ประเทศจีนมีแผนจะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งส่งผลให้เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นที่ฮ่องกง และสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐฯ ประกอบกับการที่จีนระงับการกำหนดเป้าหมาย GDP ประจำปี 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจจีนเผชิญกับความไม่แน่นอน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเข้ามาเป็นตัวแปรต่อตลาดหุ้น พร้อมกันนี้ ทางฝ่ายวิจัย ยังแนะนำจับตาทิศทางการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศ อาทิ การกำหนดประชุม ครม.ในวันที่ 26 พ.ค. การกำหนดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อบรรเทาเหตุวิกฤติจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค.นี้ ขณะเดียวกันวันที่ 27 พ.ค.63 จะมีการประชุมทีมเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติมในระยะ 3 และ 4 ส่วน และวันที่ 29 พ.ค. ทางธปท.จับตาการรายงานภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย ส่วนทิศทางต่างประเทศได้แก่ การเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯในวันที่ 26 พ.ค.นี้,วันที่ 27 พ.ค.จีน เปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดริชมอนด์ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในเช้าวันที่ 28 พ.ค. และในวันเดียวกัน สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.GDP 1/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และอียู เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.วันที่ 29 พ.ค. อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.63 นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้ โดยแนะนำลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการโดดเด่นในไตรมาส 2/2563 ได้แก่ WICE ,TASCO และ CPF รวมถึงยังแนะนำหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ย เช่น BAM,MTC,SAWAD และ SINGER ขณะที่ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่า ราคาทองคำยังคงผันผวนในกรอบ 1,700-1,750 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ 25,690-26,520 บาทต่อบาททองคำ โดยแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ขึ้นขายลงซื้อตามกรอบสัญญาณดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ปัจจัยเข้าหนุน “ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,717-1,764 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยทองคำ ได้รับแรงหนุนจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนรอบใหม่ หลังสหรัฐฯดำเนินมาตรการเพื่อสกัดกั้นการส่งออกเซมิคอนดัคเตอร์ ให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี และสหรัฐฯได้เข้าแทรกแซงการออกกฎหมายปกครองฮ่องกงของจีนที่ออกเพื่อป้องกันและลงโทษการกบฎ การก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน และการแทรกแซงของต่างชาติในฮ่องกง อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นจะมีแรงขายทำกำไรออกมา เนื่องจากทองคำให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในปีนี้ที่ 11.3% เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น”