กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เร่งเดินหน้าจัดมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และสถานการณ์ภัยแล้ง ชูนโยบายพักชำระหนี้ ชะลอหนี้เสีย พร้อมเตรียมเติมสินเชื่อ วงเงินรวม 1,700 ล้านบาทแก่ลูกหนี้กองทุนฯกว่า 10,000 ราย เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หวังกระตุ้นการจ้างงาน และเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในยุค NEW NORMAL นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ (กอป.)เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ทำการสำรวจ ความเดือดร้อนและความต้องการของเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด 19) และสถานการณ์ภัยแล้งนั้นพบว่า เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ต้องการให้ช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินโดยเฉพาะการพักชำระหนี้ และการเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ กองทุนฯจึงได้ได้ประกาศพักชำระหนี้แก่ลูกหนี้กองทุนสูงสุด 12 เดือน ตามความสมัครใจ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ถือเป็นการชะลอหรือ ลดโอกาสในการเกิดหนี้เสีย ขณะนี้มีลูกหนี้ได้รับอนุมัติแล้วจำนวน 2,834 ราย คิดเป็นวงเงิน 5,300 ล้านบาท อย่างไรก็ดียังมีกลุ่มลูกหนี้กองทุนอีกจำนวนมากที่ยังได้รับความเดือดร้อนจากโรคระบาด และภัยแล้ง ประสงค์จะขอสินเชื่อเพื่อการเสริมสภาพคล่อง และคงการจ้างงานต่อเนื่อง ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบให้กองทุนปล่อยสินเชื่อในลักษณะที่เป็นเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) วงเงินรวม 1,700 ล้านบาท แก่ลูกหนี้กองทุนจำนวนกว่า 10,000 ราย ที่ต้องการใช้เงินหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ รวมถึงการจ้างงานบุคลากรของสถานประกอบการ โดยวงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อรายจะอยู่ที่ 1,000,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1 ระยะเวลา 5 ปี โดยคุณสมบัติเบื้องต้นของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการต้องมีสถานะไม่เป็น NPL และมีประวัติการผ่อนชำระหนี้ปกติในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ลูกหนี้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อทุนหมุนเวียนดังกล่าว ต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาหรือเสริมศักยภาพในด้านต่างๆตามที่กองทุนฯกำหนด อาทิ ด้านแผนบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ ด้านการตลาด และบริหารการเงิน การบัญชีอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการประกันว่า กิจการจะสามารถฟื้นตัวและดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งต่อไป สำหรับสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแบบใหม่นี้ จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมจนถึง 31 กรกฎาคม 2563 สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank)ทุกสาขาของประเทศ หรือติดต่อสายด่วนที่ 1357 หรือโทร 0-2265-3000 ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และสำหรับลูกหนี้กองทุนฯที่ต้องการพักชำระหนี้เงินต้นแต่ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ขอพักชำระหนี้ ขอให้รีบติดต่อ SME D Bank ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ก่อนที่จะปิดรับคำขอ