ผู้ว่าฯนราธิวาส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ เร่งวางแผนแก้ไขปัญหา ล่าสุดลุกลามกว่า 2,050 ไร่ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมให้ได้โดยเร็ว วันนี้ (25 พ.ค. 63) ที่ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอยี่งอ นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โครงการชลประทานนราธิวาส สถานีควบคุมไฟป่านราธิวาส นิคมสหกรณ์บาเจาะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เข้าร่วมการประชุม สำหรับเหตุเพลิงไหม้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ (ป่าไม้ส่วนกลางร้อยละ 20 นิคมสหกรณ์บาเจาะ) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 โดยขณะนี้ไฟยังคุกรุ่นสร้างความเสียหายแล้วกว่า 2,050 ไร่ ในด้านการดำเนินการทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนราธิวาสฯ ร่วมกับอำเภอ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครในพื้นที่ระดมเครื่องมือและสรรพกำลังในการดับไฟป่า โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา สนับสนุนเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 เครื่อง , โครงการชลประทานนราธิวาส สนับสนุนเครื่องสูบน้ำพญานาค จำนวน 6 เครื่อง , สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 สงขลา สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง , รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมสนับสนุนรถดับเพลิง , รถบรรทุกน้ำ , รถแบคโฮ นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติการฝนหลวงไปแล้วจำนวน 1 ครั้ง โดยแนวโน้มสถานการณ์ยังคงมีไฟคุกกรุ่น นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ป่าพรุบาเจาะในเขตพื้นที่ป่าสงวน เกิดไฟไหม้ประมาณ 2,000 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ของประชาชนประมาณ 500 ไร่ และพื้นที่ป่าสงวน 1,500 ไร่ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นคือการส่งน้ำเข้าไปดับไฟ ซึ่งวันนี้มาติดตามสถานการณ์และหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยการขุดลอกคูน้ำเพื่อรองรับน้ำ ผันน้ำจากจุดที่มีแหล่งน้ำ ทำคลองไส้ไก่ไปในพื้นที่ พร้อมทั้งทำแนวกันไฟไม่ให้ไฟลามมาในพื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งพื้นที่ป่าพรุแห่งนี้มีประมาณ 5,000 ไร่ แต่ในพื้นที่นิคมสหกรณ์บาเจาะมีพื้นที่ 90,000 ไร่ ได้ระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทุกวัน แม้จะมีปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นแต่ได้มีการปรับแผนแก้ไขปัญหา โดยมีนายอำเภอยี่งอเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งทุกภาคส่วนร่วมกันพยายามควบคุมให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าได้เกิดผลกระทบให้เกิดหมอกควันฝุ่น PM 2.5 และสร้างความเสียหายด้านทรัพยากรป่าไม้ ที่จะต้องใช้เวลาฟื้นคืน โดยพื้นที่ป่าพรุเมื่อเกิดไฟไหม้จะไม่เหมือนพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากจะมีไฟคุกรุ่นอยู่ใต้ดินต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมากในการดับไฟ และใช้กำลังคนร่วมด้วย หลังการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้มอบน้ำหวานพร้อมขนม เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานอีกด้วย