เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2563 พ.ต.อ.วิชาธร ผิวพรรณ ผกก.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.อาทิตย์ ทองเลิศ รอง ผกก.ป.สภ.พร้าว สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่านเข้ามาในพื้นที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จึงนำกำลังตั้งด่านตรวจป่าฮิ้น ถนนสายพร้าว – เชียงดาว หมู่ 4 ต.บ้านโป่ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ และเส้นทางรองในป่า ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ขับขี่มาจากอำเภอเชียงดาว มุ่งหน้าอำเภอพร้าว เมื่อขับมาถึงทางแยกก่อนถึงด่านตรวจประมาณ 200 เมตร ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวได้เลี้ยวขวาเข้าไปตามเส้นทางแยก ทางตำรวจประจำด่านไล่ติดตามจนพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แค็บ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ยจ 3038 เชียงใหม่ คันที่หลบไปชนกับต้นไม้ข้างทาง จนไม่สามารถขับต่อไปได้ ตรวจสอบภายในรถพบ น.ส.นาแส จะวอ อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมเด็กชายหญิงวัย 7 ขวบ และ 8 ขวบ อยู่ภายในรถ เมื่อตรวจค้นในรถพบยาบ้าจำนวน 2 มัด ประมาณ 4,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ซ่อนอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ระหว่างเบาะนั่งคนขับกับเบาะนั่งผู้โดยสาร จึงดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นางนาแส จะวอ และ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยาบ้าจำนวนดังกล่าวที่พบเป็นของชายที่หลบหนี ซึ่งเป็นสามีของตนเอง ชื่อ นายสมบูรณ์ จะสี อายุ 33 ปี ชาว ม.1 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ตนเองและสามีได้ออกเดินทางจากบ้านพักที่บ้านออน อ.เชียงดาว พร้อมด้วยบุตร 2 คน เวลาประมาณ 04.00 น. เพื่อเดินทางไป ที่อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ มาถึงที่เกิดเหตุเมื่อพบด่านตรวจ นายสมบูรณ์ ได้เลี้ยวรถเพื่อหลบหนี แต่เสียหลักไปชนต้นไม้ นายสมบูรณ์ลงจากรถหลบหนีไป ทิ้งตนกับลูกไว้ แล้วไม่ทราบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนมาด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พร้าว เพื่อดำเนินคดีต่อไป ขณะที่ตำรวจส่วนหนึ่งได้ติดตามไปที่บ้านพักของผู้ต้องหา เพื่อล่าตัว นายสมบูรณ์ จะสี อายุ 33 ปี แต่ไม่พบตัว พร้อมจะออกหมายจับต่อไป.