จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ บริเวณป่าพรุบาเจาะ ในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งเกิดไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง มาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส บนท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มมีหมอกควันไฟป่าปกคลุมพื้นที่โดยภาพรวม โดยมีปริมาณไม่หนาแน่นมาก พบว่า โดยภาพรวมมีหมอกควันแผ่กระจายปกคลุมเป็นละอองสีขาวทั่วบริเวณและมีกลิ่นเหม็นอบอวน และสามารถมองเห็นได้เด่นชัดของปริมาณหมอกควันไฟไหม้ป่า ที่จับตัวเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ในระยะไกลสุดสายตา ซึ่งมีลักษณะหลัวคล้ายฝนกำลังจะตก โดยขณะนี้มีประชาชนลักลอบเข้าไปจุดไฟในพื้นที่ป่าพรุ บางจุด ส่งผลให้เกิดไฟไหม้พื้นที่ป่าสงวน ในพื้นที่ป่าพรุบาเจาะ เสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 100 ไร่ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าไปสกัดไฟป่า ที่เกิดขึ้นในบริเวณกว้าง ภายใต้ข้อจำกัด ถือเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ขณะที่ทางจังหวัดนราธิวาสก็ได้ขออนุมัติไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อขอฝนหลวง ซึ่งล่าสุดมีการบินปฏิบัติการในพื้นที่แล้ว ด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ห้ามเข้ามาในส่วนพื้นที่ป่าสงวนป่าพรุบาเจาะ ในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง ห้ามจุดไฟ หรือเผาวัชพืชต่างๆ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม มีคำแนะนำสำหรับพื้นที่ที่มีหมอกควัน โดยเฉพาะจ.นราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพว่า ถ้าต้องไปอยู่ในที่ที่มีหมอกควัน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆปิดจมูกและปาก ปิดประตู หน้าต่างไม่ให้ฝุ่นควันเข้าบ้าน ไม่ควรอยู่ในบริเวณที่มีหมอกควัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อย่างเด็ก คนชรา ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด ซึ่งกลุ่มเสี่ยงควรอยู่ในบ้าน และผู้ป่วยรวมถึงโรคหัวใจ และโรคปอด ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม