พบไม่มีคนสธ.และกลาโหมไปเกี่ยวข้อง ให้ฝ่ายกฎหมายจัดการแล้ว เตือนผู้ประกอบการอย่าหลงเชื่อ ชี้จะมีคณะทำงานลงพื้นที่ทยอยไปตรวจ ระบุที่มีอยู่ในปัจจุบัน 29 แห่งเพียงพอกับสถานการณ์ยังไม่มีการเพิ่มเติม ชี้เรื่องนี้ถึงวงประชุมศบค.แล้ว นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กล่าวถึงกรณีมีการเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวจากผู้ที่เข้าพักในสถานที่กักกัน หรือในโรงแรมต่างๆ ที่ทางรัฐจัดให้ว่า เมื่อได้รับข้อมูล ทางสธ. และกลาโหม ได้มีการตรวจสอบถึงข่าวและบุคคลในข่าว ขณะนี้ได้มีการยืนยันแล้วว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในส่วนของสธ. และกระทรวงกลาโหม และได้มอบหมายให้นิติกรของกระทรวงสาธารณสุข ไปแจ้งความเพื่อที่จะเอาผิดกับผู้ที่อยู่ในภาพและผู้ที่เป็นข่าวแล้ว อยากฝากว่าการดำเนินการโครงการนี้ เป็นการดำเนินการโดยส่วนของรัฐบาล และมีพื้นที่ชัดเจน ซึ่งได้ใช้ระบบให้โรงแรมทุกแห่งส่งชื่อเข้ามา และประเมินตัวเองก่อน จากนั้นทางคณะทำงานจะทยอยไปตรวจเยี่ยมตามลำดับ เช่น ขณะนี้มี State Quarantine 25 แห่ง และมี Alternative State Quarantine 4 แห่ง ซึ่งจำนวนนี้เพียงพอไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ ฝากผู้ประกอบการอย่าไปหลงเชื่อว่าใครที่จะไปอำนวยความสะดวกหรือจะให้ไปรับรองได้ ซึ่งมีระบบมีหลักเกณฑ์ และมีประกาศ ซึ่งขณะนี้จำนวนจะมีอยู่ขณะนี้ก่อน แต่ทีมประเมินของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหมที่ไปเป็นคณะ ที่จะติดต่อแต่ละแห่งไป ตามลิสต์ที่ขึ้นไว้ในเว็บไซต์ และจะทยอยไป โดยจะทยอยไปเพื่อกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ให้เหมาะสม โดยเฉพาะพัทยา ชลบุรี สมุทรปราการ และกทม.ที่อยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ขณะนี้ได้ไปดำเนินการตามกฎหมายแล้วกับผู้ที่แอบอ้างและแจ้งความทั้งหมด ขอให้ผู้ประกอบการอย่าไปหลงเชื่อ ด้านดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขกล่าวว่า ย้ำว่าบุคคลที่ไปทำพฤติกรรมนี้จะไม่ละเว้น จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะบั่นทอนการทำงาน การปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ ซึ่งได้รายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุม ศบค.ว่าต้องจัดการให้เด็ดขาด