ดนตรี / วรรณากร ทองเสริม ในบรรดานักร้องสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน – โดยเฉพาะกลุ่มที่มาจากรายการเด็กของช่องดิสนีย์ อย่าง ไมลี่ย์ ไซรัส ดูเหมือน เซเลนา โกเมซ จะสนใจสร้างความหวือหวาน้อยกว่าเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการตกเป็นข่าวหรือในแง่ของการสร้างผลงาน อัลบั้ม Rare ซึ่งเป็นผลงานชุดที่ 3 และชุดล่าสุดของเธอนั้น ออกสู่ตลาดมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และได้รับเสียงชื่นชมรวมถึงคำวิจารณ์ในทางที่ดี ไม่แพ้ผลงานเดี่ยวก่อนหน้านั้นทั้งสองชุด กระทั่งเธอตัดสินใจนำงานมีรีแพ็กเกจใหม่และเพิ่มเพลงใหม่ลงไปอีก 3 เพลง กลายเป็นอัลบั้ม Rare (Deluxe) สำหรับ Rare เวอร์ชั่นใหม่นี้ เซเลนา ไม่เพียงเพิ่มเพลงเข้ามาใหม่คือ “Boyfriend”, “She” และ “Souvenir” แต่ยังจัดเรียงลำดับเพลงในอัลบั้มเสียใหม่ สร้างภาพรวมให้แตกต่างไปจากอัลบั้ม Rare เวอร์ชั่นปกติ จากเดิมที่เป็นงานเพลงป๊อป-แดนซ์ลูกผสมอาร์แอนด์บีและละตินที่หนักแน่นและนุ่มนวล ก็กลายเป็นอัลบั้มเฮาส์มิวสิคแบบอ่อนๆ ให้บรรยากาศที่ดูหม่นลง ลึกลับขึ้นและมีเสน่ห์ขึ้นด้วย ก่อนหน้าจะมีผลงานชุดที่ 3 ความป่วยไข้ทั้งทางกายและใจทำให้เธอต้องหยุดพักการทำงานไปนานถึง 4 ปี (ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง, ต้องผ่าตัดปลูกถ่ายไตใหม่ และสุดท้าย เธอเพิ่งเผยว่าตัวเองป่วยเป็นโรคไบโพลาร์) แต่ดูเหมือนชีวิตแย่ๆ จะทำให้เธอมีวัตถุดิบในการทำเพลงมากมาย เซเลนา จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ความในใจของเธอที่สื่อสารออกมาในอัลบั้ม Rare นั้น ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นในฉบับเดอลุกซ์ นั่นคือในระหว่างการดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากความรักความสัมพันธ์ที่ทำให้จิตใจบอบช้ำ (แบบที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอในช่วงที่คบหาดูใจกับ จัสติน บีเบอร์) สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการรักคนอื่นก็คือการรักตัวเอง แนวคิดนี้มีให้สัมผัสได้ในหลายเพลง และไม่ต้องมองหาก็เห็นในบางเพลง เช่น “Boyfriend”, “Lose You To Love Me”, “Let Me Get Me” จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีใครลุกขึ้นมาบอกว่า นี่เป็นอัลบั้มที่มีความเป็นตัวเองหรือมีเรื่องส่วนตัวผสมปนเปอยู่มากที่สุดของ เซเลนา โกเมซ และในอนาคต ก็มีแววว่าจะเป็นผลงานคลาสสิคอีกชุดหนึ่งของเธอ นอกเหนือไปจากเป็นหลักฐานการกลับมาของผู้หญิงที่ล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วนจากเหตุการณ์พลิกผันในชีวิต แต่ก็ยังกลับมาได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง