วันที่ 21 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงาน “ที่หมู่ 1 ถนนเอกชัย ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ” นางอัธยา อ่ำหนองโพ จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดฏิบัติการตรวจแรงงานต่างด้าว ร่วมปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร นำโดย นายวุฒิพงษ์ สุภัควณิช นอภ.มืองสมุทรสาคร พร้อมกำลังอาสารักษาอำเภอเมืองสมุทรสาคร (อส.) สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฯ, ตรวจคนเข้าเมืองฯ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร และประมงจังหวัดฯ เข้าตรวจสอบตามเรื่องร้องเรียนว่า โรงงานมีแรงงานเถื่อน ตั้งอยู่ ถนนเอกชัย หมู่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ ปรากกว่าเมื่อไปถึงจุดเป้าหมาย เป็นกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ
นายวุฒิพงษ์ นอภ.มืองฯ เผยว่า จากการตรวจสอบพบมีการใช้แรงงานสัญชาติเมียนมา อยู่จำนวน 51 ราย เป็นชาย 14 ราย หญิง 37 ราย ทั้งนี้พบความผิดตาม พรก.การบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และ พ.ศ. 2561 ดังนี้ (1.) มีใช้แรงงานสัญชาติเมียนมา มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง จำนวน 21 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 13 ราย
และ (2.) แรงงานเมียนมา 6 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 5 ราย มีความผิดตามมาตรา 64/2 พรก.การบริหารจัดการการทํางานคนต่างด้าวฯ “ซึ่งผู้รับอนุญาตให้ทํางานมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบถึง ผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทํางานของนายจ้าง และลักษณะงานหลักที่ทํา”
3. แรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 24 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 19 ราย มีความผิด วึ่งเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” ตาม พรก.“เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งสถานี สภ.เมืองสมุทรสาคร ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ทั้งนี้ขณะตรวจสอบไม่พบผู้รับเป็นนายจ้าง โดยจะออกหมายเรียกเจ้าของมารับข้อกล่าวหาต่อไป ซึ่งมีทั้งแรงงานคนต่างด้าวทํางานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทําได้ และไม่แจ้งใช้แรงงานดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบ (ในกำหนด 15วัน) พร้อมข้อหาให้ที่พักพิงแรงงานหรือซ่อนเร้นช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
และ (2.) แรงงานเมียนมา 6 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 5 ราย มีความผิดตามมาตรา 64/2 พรก.การบริหารจัดการการทํางานคนต่างด้าวฯ “ซึ่งผู้รับอนุญาตให้ทํางานมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบถึง ผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทํางานของนายจ้าง และลักษณะงานหลักที่ทํา”
3. แรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 24 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 19 ราย มีความผิด วึ่งเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” ตาม พรก.“เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งสถานี สภ.เมืองสมุทรสาคร ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ทั้งนี้ขณะตรวจสอบไม่พบผู้รับเป็นนายจ้าง โดยจะออกหมายเรียกเจ้าของมารับข้อกล่าวหาต่อไป ซึ่งมีทั้งแรงงานคนต่างด้าวทํางานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทําได้ และไม่แจ้งใช้แรงงานดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบ (ในกำหนด 15วัน) พร้อมข้อหาให้ที่พักพิงแรงงานหรือซ่อนเร้นช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”