"ศบค."วอนอย่ารังเกิยจคนป่วยโควิด-19รักษาหาย "สมช."ไฟเขียวต่ออายุ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน"เพิ่มอีก 1 เดือน พร้อมชง "ศบค."เคาะวันนี้ ปัดใช้ควบคุมการเมือง จ่อถก"เคอร์ฟิว"สัปดาห์หน้า "เชษฐา" บอกกองทัพไม่ต้องเกรงใจการเมือง รีบแก้ปัญหาประเทศก่อนปล่อยมือเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมให้กำลังใจ"บิ๊กตู่" สู้งานหนัก ชม "บิ๊กแดง"ทำงานดี ส่วน"สมคิด"หัวเราะร่าหลังถูกถามตั้งพรรคใหม่ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 พ.ค.63นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. กล่าวถึงกรณีมีทีมหมอจากต่างประเทศ ประกาศเตือนอย่าเข้าใกล้คนที่ติดเชื้อหรือคนที่รักษาหาย เพราะอาจแพร่เชื้อได้ว่า ไม่ต้องกลัว เพราะเราต้องการ Plasma จากที่มารักษามากกว่าจะไปรังเกียจได้อย่างไร คนที่ไม่เคยติดเชื้อ เป็นกลุ่มเสี่ยงมากกว่า เราต่างหากจะเอาโรคไปติด ดังนั้นต้องเปลี่ยนระบบความคิดใหม่ ด้าน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)เปิดเผยหลังประชุมส่วนราชการ เพื่อประเมินความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ว่า ปัจจุบันสถานการณ์จะดีขึ้น แต่สถานการณ์โลกยังน่าเป็นห่วง มีตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน ไทยเอง แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง และการผ่อนคลาย ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้มีการติดเชื้อระลอกสอง ทุกหน่วยจึงเห็นพ้องให้ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือนเพื่อให้ครอบคลุมห้วงระยะเวลาเดือน มิ.ย.ทั้งเดือน โดยจะเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือศบค.พิจารณาในวันที่ 22 พ.ค. ถ้าเห็นด้วย จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า "สาเหตุต้องต่ออีก 1 เดือน เพราะเดือนมิ.ย. เป็นช่วงการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 และต้องยอมรับว่าการผ่อนคลายทุกระยะมีความเสี่ยงทุกขณะ ถ้าผ่อนคลายอย่างไม่ระมัดระวัง การแพร่ระบาดอาจจะกลับมาอีก และหนักกว่าเดิม เราจึงเห็นว่า การมีเครื่องมือในการกำกับดูแล อย่าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือตัวเป็นกำหนดที่ดีอยู่แล้ว ผมขอยืนยันว่าตั้งแต่วันแรกที่นายกฯตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เคยคำนึงถึงเรื่องการเมืองเลย จนถึงวินาทีนี้ในฐานะที่ผมร่วมแก้ปัญหานี้มาตั้งแต่ต้น กล้ารับประกันว่า เราไม่ได้เอาเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องมาตรการเคอร์ฟิว จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค." ส่วน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่จะครบรอบการทำรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ว่า กองทัพยังมีความจำเป็นต้องประคองสถานการณ์บ้านเมืองให้เดินไปข้างหน้าและหากกองทัพไม่เข้าไปแก้ปัญหาก็จะเกิดความปั่นป่วนมากขึ้น และจะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นกองทัพต้องรีบเข้าไปแก้ไขแล้วรีบปล่อยมือเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ไม่ต้องไปเกรงอกเกรงใจการเมือง และเป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายการเมืองโจมตีกองทัพว่าเข้าไปยุ่งการเมือง แต่เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆแก้ไขกันไป เมื่อถามว่า มองบทบาท พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. อย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ทำ งานดีอยู่แล้วทั้งที่บางเรื่องไม่ใช่เรื่องของกองทัพโดยตรง เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก ฯ และรมว.กลาโหมอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เป็นหน้าที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะเหน็ด เหนื่อยอย่างไร คิดว่าไม่มีปัญหา ขอให้ทุกอย่างได้รับการแก้ไขเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมทั้งข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่โดยกลุ่ม 4 กุมาร และมีชื่อของนายสมคิดเกี่ยวข้องด้วยว่า "อย่าถามเรื่องนี้ เอาเรื่องที่มันมีสาระหน่อย" พร้อมกับหัวเราะ เมื่อถามว่า มีบางคนระบุเป็นเพราะงอนผู้ใหญ่ในพรรค พปชร.จึงไม่เข้าร่วมประชุม นายสมคิดส่ายหน้าและหัวเราะ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม นอกจากนี้ นายสมคิด ยังระบุต่อว่า ได้ลาป่วย เพราะไม่สบาย ทำให้น้ำหนักลดลง2กิโลกรัม จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมศูนย์ ศบค.และครม.ที่ผ่านมา