"เชฟไทย" ติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุด 1คน พบติดเชื้อระหว่างกักตัวกลับจากบาร์เรน "ศบค."ปลื้ม! ไทยเป็นชนชาติดูแลรักษาอนามัยส่วนบุคคลดีที่สุด ด้าน"ฮู"มีมติสอบสวนการรับมือโควิด-19 หลังอาละวาดไปทั่วโลก "ลุงแซม" ขยายเวลาปิดพรมแดน "แคนาดา-จังโก" ออกไปอีก 30 วัน ขณะที่เหยื่อตาย-ป่วยไวรัสมรณะยังพุ่งต่อเนื่อง "มะกัน"ยังรั้งอันดับ 1 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 พ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า รายงานสถานการณ์ของประเทศไทยวันนี้ ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,034 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 56 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 31 ราย รวมยอดหายป่วย สะสม 2,888 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 90 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 45 ปี อาชีพเชฟร้านอาหารไทย เดินทางกลับจากประเทศบาห์เรน ถึงไทยวันที่ 15 พ.ค. เข้าพัก State Quarantine ในกทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 18 พ.ค.63 แต่ไม่ได้มีอาการ ตรวจพบเชื้อในระหว่างการกักตัว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ขอย้ำเหมือนเดิมจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือไปเที่ยวห้าง ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ซึ่งเราจะชนชาติที่ดูแลรักษาอนามัยส่วนบุคคลได้ดีที่สุด ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ(ฮู) ซึ่งประกอบด้วยบรรดาผู้นำและผู้แทนจาก 194 ประเทศ ได้หารือผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เป็นเวลา 2 วัน และเสร็จสิ้นไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามวันเวลาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีมติให้มีการสอบสวนเรื่องการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเป็นธรรม ขณะที่ ทางการสหรัฐฯ โดยนายชาด โวล์ฟ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขยายเวลาการบังคับใช้ว่าด้วยการจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็นข้ามพรมแดนประเทศแคนาดาและประเทศเม็กซิโก ออกไปอีกเป็นเวลา 30 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่วนสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 4,989,019 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 324,958 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 1,959,149 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,570,583 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 93,533 ราย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้อ้างเหตุผลว่า เพราะสหรัฐฯ ดำเนินการตรวจหาโรคเชิงรุกจึงทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องดี