ปภ.จังหวัดนราธิวาส พร้อมทีมงานลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะที่ลุกลามกว่า 100 ไร่ เร่งบูรณาการผลักดันน้ำเข้าพื้นที่ระงับไฟป่าโดยเร็ว
วันนี้ (20 พ.ค. 63) ที่พื้นที่ป่าพรุบาเจาะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มอบหมายให้ นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าพรุบาเจาะ โดยมีนายบุรพัน คงตา ปลัดอำเภอบาเจาะ เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดนราธิวาส ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ ชรบ. อส. และเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า ร่วมลงพื้นที่
นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่พรุบาเจาะ ได้เกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ทำให้ไฟไหม้พื้นที่ประมาณ 80 - 100 ไร่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันผลักดันน้ำเข้าไปในพื้นที่เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและไม่ลุกลามขยายวงกว้าง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ซึ่งเป็นเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 เครื่อง และจะมีการติดตั้งเพิ่มอีก 1 เครื่อง รวมทั้งได้ประสานกับโครงการชลประทานนราธิวาส เพื่อวางเครื่องสูบน้ำอีก 1 เครื่อง ช่วยผลักดันน้ำจากคูน้ำรอบแปลงเข้าไปในพื้นที่ป่าพรุ และทางโครงการชลประทานนราธิวาสจะนำเครื่องสูบน้ำมาเพิ่มอีก 1 เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำเข้าไปในพื้นที่เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่จะต้องใช้เวลาดำเนินการระยะหนึ่ง เพื่อผลักดันน้ำเข้าไปในพื้นที่ให้ดินมีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้พยายามหาแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อสูบน้ำเข้าพื้นที่ที่เกิดไฟป่า หากหาแหล่งน้ำต้นทุนได้เมื่อสูบน้ำเข้าไปในแปลงจะทำให้ไฟไหม้ป่าพรุลดลง ซึ่งในช่วงหน้าแล้งจะมีการลุกลามอย่างรวดเร็ว
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาสได้มีการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง เนื่องจากอาจเกิดไฟป่าในช่วงหน้าแล้งได้ง่ายขึ้น โดยสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุเกิดขึ้นแทบจะทุกปี ประชาชนจึงมีส่วนร่วมที่สำคัญในการดูแลพื้นที่ การเกิดไฟป่าในจังหวัดนราธิวาส ช่วงเดือนพฤษภาคมได้เกิดไฟป่า ที่หมู่ 8 ตำบลโคกเคียน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้ดำเนินการดับไฟป่าไปเรียบร้อยแล้ว โดยใช้วิธีการสูบน้ำเข้าแปลงเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและสามารถดับไฟได้ มีพื้นที่จะได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ และเกิดไฟป่าต่อเนื่องในพื้นที่ป่าพรุบาเจาะ ซึ่งเป็นพื้นที่สวนป่าที่สงวนไว้ให้กับประชาชน ประมาณร้อยละ 20 ของพื้นที่ จากเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 5,000 ไร่
สำหรับการบัญชาการเหตุการณ์ ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ คือ นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอยี่งอ และมีฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ ที่ร่วมดำเนินการตามแผนระงับเหตุ โดยศูนย์ควบคุมไฟป่าได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เข้าระงับเหตุบริเวณหัวไฟ , ศูนย์ ปภ.เขต 12 สูบน้ำเข้าพื้นที่ที่เกิดเหตุ , โครงการชลประทานนราธิวาส สูบน้ำเข้าพื้นที่ที่เกิดเหตุและบริหารจัดการน้ำ และอำเภอยี่งอ ได้นำกำลัง อส. ชรบ. เข้าระงับเหตุ และในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าเพื่อให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว
นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่พรุบาเจาะ ได้เกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ทำให้ไฟไหม้พื้นที่ประมาณ 80 - 100 ไร่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันผลักดันน้ำเข้าไปในพื้นที่เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและไม่ลุกลามขยายวงกว้าง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ซึ่งเป็นเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 เครื่อง และจะมีการติดตั้งเพิ่มอีก 1 เครื่อง รวมทั้งได้ประสานกับโครงการชลประทานนราธิวาส เพื่อวางเครื่องสูบน้ำอีก 1 เครื่อง ช่วยผลักดันน้ำจากคูน้ำรอบแปลงเข้าไปในพื้นที่ป่าพรุ และทางโครงการชลประทานนราธิวาสจะนำเครื่องสูบน้ำมาเพิ่มอีก 1 เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำเข้าไปในพื้นที่เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่จะต้องใช้เวลาดำเนินการระยะหนึ่ง เพื่อผลักดันน้ำเข้าไปในพื้นที่ให้ดินมีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้พยายามหาแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อสูบน้ำเข้าพื้นที่ที่เกิดไฟป่า หากหาแหล่งน้ำต้นทุนได้เมื่อสูบน้ำเข้าไปในแปลงจะทำให้ไฟไหม้ป่าพรุลดลง ซึ่งในช่วงหน้าแล้งจะมีการลุกลามอย่างรวดเร็ว
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาสได้มีการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง เนื่องจากอาจเกิดไฟป่าในช่วงหน้าแล้งได้ง่ายขึ้น โดยสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุเกิดขึ้นแทบจะทุกปี ประชาชนจึงมีส่วนร่วมที่สำคัญในการดูแลพื้นที่ การเกิดไฟป่าในจังหวัดนราธิวาส ช่วงเดือนพฤษภาคมได้เกิดไฟป่า ที่หมู่ 8 ตำบลโคกเคียน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้ดำเนินการดับไฟป่าไปเรียบร้อยแล้ว โดยใช้วิธีการสูบน้ำเข้าแปลงเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและสามารถดับไฟได้ มีพื้นที่จะได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ และเกิดไฟป่าต่อเนื่องในพื้นที่ป่าพรุบาเจาะ ซึ่งเป็นพื้นที่สวนป่าที่สงวนไว้ให้กับประชาชน ประมาณร้อยละ 20 ของพื้นที่ จากเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 5,000 ไร่
สำหรับการบัญชาการเหตุการณ์ ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ คือ นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอยี่งอ และมีฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ ที่ร่วมดำเนินการตามแผนระงับเหตุ โดยศูนย์ควบคุมไฟป่าได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เข้าระงับเหตุบริเวณหัวไฟ , ศูนย์ ปภ.เขต 12 สูบน้ำเข้าพื้นที่ที่เกิดเหตุ , โครงการชลประทานนราธิวาส สูบน้ำเข้าพื้นที่ที่เกิดเหตุและบริหารจัดการน้ำ และอำเภอยี่งอ ได้นำกำลัง อส. ชรบ. เข้าระงับเหตุ และในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าเพื่อให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว