“ธรรมนัส" ส่งซิกแปลกๆ ลั่นต้องต่อสู้ ตอนยังอยู่กระทรวงเกษตรฯ เพิ่มอัตรากำลังกรมฝนหลวง อีกกว่า 700 ราย เตรียมทำรายงานตรงถึงนายกฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม VDO conference ติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ณ ห้องประชุมเทวกุล กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 11 หน่วยฯ ทั่วประเทศเข้าร่วมด้วย ว่าเป็นห่วงเรื่องการขอขยายอัตรากำลังของกรมฝนหลวงฯที่ขอไปกว่า 700 อัตรา แต่ได้รับอนุมัติมาแค่ 82 อัตรา ตนไม่เข้าใจว่าทำไมได้รับอนุมัติมาเท่านี้ ทั้งที่ภาระกิจของกรมฝนหลวงฯครอบคลุมแก้ไขปัญหาหลายด้านล้วนแต่เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการปฏิบัติการฝนหลวงที่ผ่านมาเพิ่มน้ำเข้าเขื่อนเกือบ300ล้านลบ.ม.และการร่วมแก้ไขวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 แก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันภาคเหนือ ยับยั้งพายุลูกเห็บ “ฝนหลวงทำภาระกิจเพิ่มขึ้นมาก ผมกับอธิบดีฝนหลวง ได้ร่วมกันต่อสู้เรื่องเพิ่มอัตรากำลังมาตลอดและจะต่อสู้ให้ได้อัตรากำลังเพิ่มขึ้นอีก ถ้าไม่ทำตอนผมอยู่ โอกาสยิ่งน้อย ซึ่งกรมฝนหลวงฯเป็นหน่วยงานเดียว ทำทุกภาระกิจเป็นวาระแห่งชาติ ขอบคุณพี่น้องชาวฝนหลวง แม้ยุทธโธปกรณ์ไม่เพียงพอ ถ้าไม่มีวิกฤติโควิด-19 คงได้เครื่องบินใหม่เพิ่มหลายลำ ทุกครั้งที่มีการตั้งกระทู้ถามในสภา ผมกล้าพูดทันทีเราทำอะไรบ้าง กรมฝนหลวงฯแก้ปัญหาได้เยอะแยะไปหมด หลายคนอาจไม่รู้ว่าทำอะไร พอผมมาดูเนื้อใน จะเห็นงานมากมายถามว่ามีหน่วยงานใดทำได้รอบด้านแบบนี้บ้าง สำหรับสวัสดิการ ค่าตอบแทน ผมจะต่อสู้ให้ได้ “ร.อ.ธรรมนัส กล่าว รมช.เกษตรฯกล่าวว่าสถานการณ์ตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก แม้ต้นฤดูฝน เกษตรกรหว่านกล้าแล้วแต่มีหลายจังหวัดฝนไม่ตก อากาศที่ร้อนจัดมากกว่า40องศา ซึ่งเกษตรกรนอกเขตชลประทาน หวังพึ่งการปฏิบัติการฝนหลวง อีกทั้งการแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม2.5 หมอกควันภาคเหนือ นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงมาก ขอให้ช่วยกันคิดจะมีนวตกรรมใหม่ๆมาแก้ไขให้ได้โดยเร็วกว่าปัจจุบัน ตนจะทำรายงานเสนอนายกรัฐมนตรี ทั้งในเรื่องการเพิ่มอัตรากำลังคนของกรมฝนหลวงฯเพราะเป็นหน่วยงานที่ทำภาระกิจหน้าที่ใหญ่หลวง ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงฯกล่าวว่าได้ขอเพิ่มอัตรา796ราย คปร.อนุมัติมา ข้าราชการ 44อัตรา และพนักงานราชการ38อัตรา ซึ่งเดิมหน่วยฝนหลวงมี6ศูนย์ ปัจจุบันเพิ่มอีก 2ศูนย์ แต่ไม่ได้พิจารณาเพิ่มอัตรากำลังมาให้ และในช่วงวิกฤตภัยแล้ง ได้ใช้วิธีเกลี่ยเจ้าหน้าที่มาช่วย ตนได้ทำหนังสือถาม กพร.เพื่อขอข้อเสนอแนะในการทำงานต่อไป ว่าเมื่อมีปัญหาขาดแคลนกำลังคนแต่ภาระงานเพิ่มมากขึ้น จะทำงานกันได้อย่างไร เพราะตนก็จนปัญญา