เลขาธิการ ศอ.บต. เยี่ยมจุดกระจายสินค้าอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมระบุการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ช่วยลดค่าครองชีพ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พล.ร.ต. สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เยี่ยมจุดกระจายสินค้าของจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก นางสาวณัฐชไม เสน่หา พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส ขนส่งจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมต้อนรับ
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID – 19 ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ รวมทั้งในเรื่องการจัดจำหน่ายสินค้าธงฟ้า ทาง ศอ.บต. ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ และจังหวัด จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้า เพื่อลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือประชาชนกระจายไปใน 5 จังหวัด โดยมุ่งหวังให้กระจายไปทุกตำบล เป็นสินค้าที่มีความจำเป็น ทั้งน้ำตาลทราย ข้าวสาร และน้ำมันพืช โดยได้ดำเนินการไปแล้วที่จังหวัดยะลา และในวันนี้ดำเนินการที่จังหวัดนราธิวาส ใช้งบประมาณ 8 ล้านกว่าบาท โดยจำหน่ายสินค้าที่ต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนโดยเฉพาะในช่วงฮารีรายอ จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ นอกจากนี้มีสิ่งของบริจาคให้กลุ่มของผู้ที่เปราะบางทางสังคม เช่น เด็กกำพร้า ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาส ได้มีการช่วยเหลือในทุกมิติ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ในสภาวะวิกฤต สำหรับการช่วยเหลือด้านการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น จะมีดำเนินการในรอบที่ 2 ต่อไปและรอให้ทางกรมบัญชีกลางอนุมัติการช่วยเหลือค่าครองชีพตามโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รอบที่ 3 เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่รัฐบาลจะชี้แจงภายในเดือนนี้ และยังมีการช่วยเหลือในระยะต่างๆต่อไป
ทั้งนี้ กิจกรรม “สินค้าธงฟ้า – สินค้าฮาลาล ต้านภัย COVID - 19 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ดำเนินการใน 13 อำเภอ 75 ตำบล 2 เทศบาล ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 โดยให้ อบต. และเทศบาลมารับสินค้าตามจุดที่กำหนด ในจุดแรกดำเนินการไปแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ดำเนินการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสุไหงโก-ลก และจะมีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าพร้อมกันทั้งหมดในวันที่ 20 - 21 พฤษภาคมนี้ โดยจัดสรรให้แต่ละ อบต. และเทศบาล นำไปจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ได้รับการจัดสรรตามปริมาณที่กำหนด ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด โดยข้าวสารจำหน่าย ถุงละ 5 กิโลกรัม ราคา 75 บาท , น้ำตาลทราย กก.ละ 18 บาท , และน้ำมันพืช ขวดละ 33 บาท ซึ่งมีการจำกัดจำนวนการซื้อเพื่อให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าราคาถูกอย่างทั่วถึง
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID – 19 ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ รวมทั้งในเรื่องการจัดจำหน่ายสินค้าธงฟ้า ทาง ศอ.บต. ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ และจังหวัด จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าธงฟ้า เพื่อลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือประชาชนกระจายไปใน 5 จังหวัด โดยมุ่งหวังให้กระจายไปทุกตำบล เป็นสินค้าที่มีความจำเป็น ทั้งน้ำตาลทราย ข้าวสาร และน้ำมันพืช โดยได้ดำเนินการไปแล้วที่จังหวัดยะลา และในวันนี้ดำเนินการที่จังหวัดนราธิวาส ใช้งบประมาณ 8 ล้านกว่าบาท โดยจำหน่ายสินค้าที่ต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนโดยเฉพาะในช่วงฮารีรายอ จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ นอกจากนี้มีสิ่งของบริจาคให้กลุ่มของผู้ที่เปราะบางทางสังคม เช่น เด็กกำพร้า ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาส ได้มีการช่วยเหลือในทุกมิติ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ในสภาวะวิกฤต สำหรับการช่วยเหลือด้านการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น จะมีดำเนินการในรอบที่ 2 ต่อไปและรอให้ทางกรมบัญชีกลางอนุมัติการช่วยเหลือค่าครองชีพตามโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รอบที่ 3 เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่รัฐบาลจะชี้แจงภายในเดือนนี้ และยังมีการช่วยเหลือในระยะต่างๆต่อไป
ทั้งนี้ กิจกรรม “สินค้าธงฟ้า – สินค้าฮาลาล ต้านภัย COVID - 19 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ดำเนินการใน 13 อำเภอ 75 ตำบล 2 เทศบาล ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 โดยให้ อบต. และเทศบาลมารับสินค้าตามจุดที่กำหนด ในจุดแรกดำเนินการไปแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ดำเนินการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสุไหงโก-ลก และจะมีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าพร้อมกันทั้งหมดในวันที่ 20 - 21 พฤษภาคมนี้ โดยจัดสรรให้แต่ละ อบต. และเทศบาล นำไปจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ได้รับการจัดสรรตามปริมาณที่กำหนด ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด โดยข้าวสารจำหน่าย ถุงละ 5 กิโลกรัม ราคา 75 บาท , น้ำตาลทราย กก.ละ 18 บาท , และน้ำมันพืช ขวดละ 33 บาท ซึ่งมีการจำกัดจำนวนการซื้อเพื่อให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าราคาถูกอย่างทั่วถึง