รมว.สธ.และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่รพ.ธรรมศาสตร์ เปิดอาคารผู้ป่วยวิกฤตรองรับโควิดสมบูรณ์แบบและประกาศยุติ รพ.สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตพร้อมมอบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดปทุมธานี วันนี้ (19 พ.ค.63) เวลา 15.00 น. ที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมอาคารผู้ป่วยวิกฤตระบบการหายใจบ้านปู เพื่อยกระดับ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเป็นโรงพยาบาลโควิดสมบูรณ์แบบ และร่วมแถลงข่าวยุติการส่งผู้ป่วยโควิดเข้าโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์พร้อมทั้งมอบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งประกอบไปด้วย รถฉุกเฉินทางการแพทย์จำนวน 7 คัน ตู้ตรวจผู้ป่วยความดันลบ 4 ตู้ หน้ากากป้องกันการติดเชื้อ 3 ,000 ชิ้น และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ จากนั้นรมว.สาธารณสุข ได้มอบวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ จำนวน 5,000 หน่วยให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อนำไปใช้ดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป โดยมี ดร.พินิจ พินิจ บุญเลิศ ผุ้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , ผศ.นพ. ฉัตรชัย มิ่งมาลัยลักษณ์ ผอ.รพ.สนามธรรมศาสตร์ , นายสุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ร่วมแถลงการณ์การยุติบริการชั่วคราวสู่โหมด Stand by ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ด้าน รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า เนื่องจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลศูนย์กลางที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แหล่งสำคัญของประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นโรงพยาบาลที่รองรับการโอนย้ายผู้ป่วยที่ตรวจพบการติดเชื้อจากโรงพยาบาลอื่น ๆ มาดูแลรักษาอีกด้วย ทั้งนี้ กองทุน มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19 ให้การสนับสนุน รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผ่านการมอบงบประมาณ 30,000,000 บาท เพื่อสร้างและปรับปรุงห้องความดันลบ และจัดหาเครื่องช่วยหายใจรองรับการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนทางด้าน ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดเชื้อCOVID-19 ที่จำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อเข้ามารักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก และเริ่มเกินศักยภาพการรองรับของโรงพยาบาลต่าง ๆโดยเฉพาะโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย แต่เราทราบว่า 80% ของผู้ป่วยมีอาการเพียงเล็กน้อย (mild case) มีเพียง 20% ที่มีอาการมากต้องการรักษาในโรงพยาบาล แต่สภาพในขณะนั้นผู้ป่วยเกือบทั้งหมดอยู่ในโรงพยาบาลส่งให้ผู้ป่วยใหม่ไม่สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ ถ้าเราปล่อยอยู่ในสภาพนี้ก็จะส่งผลต่อคุณภาพการรักษาและอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากขึ้น ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจึงได้วางแผนและตัดสินใจในการสร้างโมเดลรูปแบบในการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ให้มีศักยภาพ เป็นต้นแบบกับรพ.ในส่วนอื่น ๆ นั่นคือโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โดย ทีมบริหารและมหาวิทยาลัยจึงได้ร่วมกันตัดสินใจดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่แย่ลง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบและมีการเปิดโรงพยาบาลสนามไปทั่วประเทศ จากสถานการณ์ที่จำนวนผู้ป่วยใหม่ของประเทศลดลงจนเป็นศูนย์ร่วมกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้มีการขยายศักยภาพ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ในขณะนี้จำนวน 46 เตียง ทำให้ความจำเป็นของโรงพยาบาลสนามในขณะนี้ลดลง โดยในวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงได้แถลงข่าวการยุติการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามลงชั่วคราวปรับสู่โหมด stand by โดยจะสามารถเปิดใหม่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง หากมีความจำเป็นเพื่อรองรับการระบาดระลอก 2 หรือ 3 ในอนาคต โดยอาคารสถานที่และเครื่องมือทั้งหมดจะยังคงอยู่ มีเพียงทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่ย้ายออกไป โดยอาคารแห่งนี้จะยังคงสภาพเตรียมพร้อมดังกล่าวจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 แล้วจึงค่อยมีการพิจารณาอีกครั้ง