ไทยพบติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 2 ราย ไร้ผู้เสียชีวิต "ศบค."มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ด้าน"มะกัน"เร่งทดลองวัคซีนป้องโควิด-19น่าพอใจ ส่วน"ทรัมป์"ยอมรับ"กินยาต้านมาลาเรีย" ทุกวันนานกว่าสัปดาห์เพื่อป้องไวรัส ขณะที่"แดนน้ำหอม" ระทึก! พบเด็กนักเรียนติดเชื้อ 70 ราย หลังเปิดเรียน 1 สัปดาห์ ทางการต้องสั่งปิด 8 เมืองควบคุมการระบาด ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 พ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)หรือศบค.แถลงว่าวันนี้(19พ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,033 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย พบเป็นผู้หญิงอายุ 36 ปีและผู้ชายไทอายุ 42 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกเขย ที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ อย่างประเทศฝรั่งเศลภายหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ให้เปิดสถานศึกษากว่า 40,000 แห่ง ทางรัฐมนตรีศึกษาของฝรั่งเศส ออกมาระบุว่ามีสัญญาณเตือนการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในสถานศึกษาอีกครั้งหลังพบผู้ติดชื้อ 70 ราย โดยยังไม่มีคามชัดเจนว่า ผู้ติดเชื้อเป็นนักเรียนหรือครู ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า บริษัท โมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทยา และเวชภัณฑ์ ในประเทศสหรัฐฯ รัฐแมสซาชูเซตส์ เปิดเผยผลการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19ในกลุ่มทดลองที่เป็นมนุษย์ โดยได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยการทดลองดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นมา ซึ่งในการศึกษาทด ลองระยะที่ 1 ด้วยการฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้ทดลองคนละ 2 โดสผลปรากฏว่า ในวันที่ 43 ของการทดลองได้พบระดับ ภูมิคุ้มกันร่างกาย หรือแอนติบอดีของกลุ่มผู้ทดลอง มีปริมาณใกล้เคียง หรือสูงกว่าระดับ แอนติบอดีของผู้ที่เพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้ดังกล่าว พบในกลุ่มผู้ทดลองจำนวนเพียง 8 คน เท่านั้น จาก45 คน ด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้รับประทานยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นยาต่อต้านไข้มาลาเรียทุกวันมาเป็นเวลานานถึง 1 สัปดาห์ครึ่งแล้ว ตามที่บุคลากรทางการแพทย์ได้กล่าวกับตนว่า ได้รับประทานยาชนิดนี้ระหว่างออกปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนที่ตนจะได้ปรึกษากับแพทย์ประจำทำเนียบขาว ขณะเดียวกัน ทางด้านประเทศฝรั่งเศส พบเด็กนักเรียนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวนอย่างน้อย 70 ราย ตามโรงเรียนต่างๆ ทั้งในระดับก่อนปฐมวัยหรือเนอสเซอรี และระดับประถมศึกษา ในพื้นที่ 8 เมืองของ จ.นอร์ ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม ภายหลังอนุญาติ ให้เปิดทำการเรียนการสอน ตามการผ่อนคลายมาตรการ ปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ มาตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากการพบ การแพร่ระบาดข้างต้น ทำให้ทางการได้มีคำสั่งให้ปิดพื้นที่ 8 เมือง ใน จ.นอร์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดแล้ว ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม จำนวน 4,894,254 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิต มีจำนวน 320,186 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวน 1,908,077 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,550,294 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 91,981 ราย