สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และการเคหะแห่งชาติ ร่วมกันดำเนินการสร้างสุขภาวะชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี โดยในปี 2562 - 2563 ได้ร่วมจัดโครงการพื้นที่ต้นแบบแห่งสุขภาวะที่ยั่งยืน 21 พื้นที่เคหะชุมชน แบ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านกิจกรรมทางกาย 4 แห่งเดิม และพื้นที่ส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาพของผู้สูงอายุ 17 แห่งใหม่ โครงการบ้านเอื้ออาทรรังสิต คลอง 10/2 เป็นพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งด้านสุขภาวะโดยการสนับสนุนจากสองหน่วยงานข้างต้น และได้รับการต่อยอดเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านกิจกรรมทางกาย 1 ใน 4 แห่งเดิม โครงการนี้ ตั้งอยู่บนถนนสายรังสิต-นครนายก ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 983 หน่วย มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 2,600 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก“กิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะของที่นี่ เน้นการออกกำลังกายควบคู่กับโภชนาการ โดยจัดกิจกรรมออกกำลังกายให้กลุ่มเยาวชน เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย เพิ่มทักษะด้านจิตใจ ทั้งความมุ่งมั่น การมีทัศนคติที่ดี มีอารมณ์ดี เท่ากับใช้เวลาว่างสร้างภูมิคุ้มกันให้พ้นจากอบายมุขและยาเสพติด” นายชลนธี เครือโชติ ประธานชุมชนบ้านเอิ้ออาทร รังสิต คลอง 10/2 กล่าว ในด้านโภชนาการ มีการให้ความรู้เรื่องแก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชน จนสามารถจัดตั้งอาชีพกลุ่มผลิตสินค้าคุณภาพ ประกอบด้วย กลุ่มแม่บ้านและกลุ่มผู้สูงอายุ สินค้าดังกล่าว มีหลากหลายประเภท ได้แก่ ข้าวโพดอ่อน ต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้ง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรพอกเข่าสำหรับผู้สูงอายุ ที่ใช้วัตถุดิบจากชุมชนเป็นหลัก โดยสินค้าดังกล่าวได้ถูกนำไปขายทั้งภายในและภายนอกชุมชน อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอีกด้วย แม้จะเป็นพื้นที่ต้นแบบสุขภาวะทางกาย แต่เนื่องจากผู้อาศัยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับชุมชนจึงเป็นเรื่องจำเป็น มีการสร้างสวนพักผ่อนและจัดกิจกรรม เช่น การเก็บขยะมูลฝอยทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ การรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น “เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และคนวัยทำงาน และยกให้เป็นพื้นที่ทางสังคมที่มีบรรยากาศแห่งความสุขสำหรับทุกคน” นายชลนธี กล่าว อีกทั้งต้องขอขอบคุณ สสส. กับ การเคหะแห่งชาติ ที่ทำให้ชุมชนได้รับงบประมาณสนับสนุนและขับเคลื่อนการสร้างสุขภาวะได้ดี เพราะลำพังชุมชนเองไม่มีงบประมาณเพียงพอจะดำเนินการเองได้ ในขณะที่ชุมชนเคหะร่มเกล้า โซน 10 ซึ่งตั้งอยู่ถนนสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. เป็นบ้านแนวราบ 342 หน่วย จัดเป็นชุมชนเข้มแข็งที่มีองค์ประกอบครบถ้วน ทั้งด้านกาย ด้านจิตใจ ด้านการมีส่วนร่วมทั้งเยาวชน ผู้สูงอายุ แม่บ้าน จึงได้รับเลือกเป็น 1 ใน 4 พื้นที่ต้นแบบด้านกิจกรรมทางกาย โดยเน้นกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนเป็นสะพานเชื่อมต่อกลุ่มต่างๆ ในชุมชนได้อย่างดี นางจริยา อารีย์ หัวหน้าชุมชนเคหะร่มเกล้า โซน 10 กล่าวว่า การสนับสนุนชุมชนอย่างต่อเนื่องของ สสส. และการเคหะแห่งชาติ ผลักดันให้ชุมชนจัดกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งกิจกรรมกลุ่มเยาวชน ผู้สูงอายุ แม่บ้าน ทำให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้นตามลำดับ กลุ่มแม่บ้าน มีการฝึกอาชีพตามที่ชาวบ้านต้องการ ในขณะกลุ่มผู้สูงอายุ เน้นการเสริมสร้างสุขภาพ ให้รู้จักดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ มีการตรวจคัดกรองสุขภาพ มีอาสาสมัครไปเยี่ยมตามบ้านเพื่อมอบสิ่งของจำเป็น มีการตรวจโรคเบาหวาน ความดัน กรณีผู้ป่วยติดเตียงจะติดด่อศูนย์บริการสาธารณสุข จัดหาเตียงผู้ป่วย ส่วนผ้าอ้อมสำเร็จรูปทางชุมชนเป็นผู้จัดหาให้ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้อยู่อาศัยบริจาคให้เป็นส่วนกลางเพื่อนำแจกจ่ายให้กับผู้ที่เดือดร้อนต่อไป สำหรับกลุ่มเยาวชนในชุมชน ได้ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 24 ปีแล้ว โดยเฉพาะโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยจัดตั้งกลุ่มเยาวชนชมรม ทู บี นัมเบอร์ วัน ปัจจุบันมีสมาชิกมากถึง 750 คน การทำกิจกรรมถูกส่งต่อจากรุ่นต่อรุ่น จนได้รับรางวัลต้นแบบระดับประเทศ และยังสามารถชักชวนเยาวชนเข้าร่วมกับผู้นำชุมชนดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชน และเป็นตัวแทนผู้นำชุมชนเข้าไปดูแลผู้สูงอายุอีกด้วย นอกจากนั้น ยังขยายไปจัดตั้งกลุ่มบีบอย กลุ่มโคพเวอร์ กลุ่มเต้น ทำให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้สื่อ ห้องสมุดสร้างสรรค์ เอาหนังสือมาบริจาคให้คนในชุมชนได้อ่าน “จุดเด่นของที่นี่ คนในชุมชนเป็นหนึ่งเดียวกันในทุกกิจกรรม ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ” นางจริยา กล่าว พื้นที่ต้นแบบสุขภาวะทั้งสองแห่ง น่าจะเป็นคำตอบว่า ความร่วมมือของ สสส. กับการเคหะแห่งชาติ ในการขับเคลื่อนสุขภาวะชุมชนยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน