วันที่ 18 พ.ค.63 คืบหน้ากรณี นางละมุน ศรีวุ่น อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ร้องขอความช่วยเหลือว่า ถูกหญิงแปลกหน้ากดเงินเยียวยาที่ได้รับจากทางรัฐบาลเดือนละ5,000บาท โดยที่หญิงแปลกหน้าอาสาที่จะช่วยกดเงินด้วยบัตรเอทีเอ็ม ให้เนื่องจากนางละมุน กดเงินไปเป็นนั้น จนทำให้เงินในบัญชีจำนวน5,000บาทหมดเกลี้ยงไปจากบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง เหตุเกิดบริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพฯสาขาอำเภอย่านตาขาว เมื่อวันที่12พฤษภาคม2563ที่ผ่านมาและโดย นางละมุนได้แจ้งความที่สภ.ย่านตาขาว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมหญิงแปลกหน้าด้วยการดูกล้องวงจรปิดของธนาคารกรุงเทพซึ่งหญิงแปลกหน้าอาสาช่วยกดเงินให้นั้น
หลังเกิดเหตุ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ และสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นห่วง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้าน รวมเป็นเงินจำนวน 4,000 บาทต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่านตาขาว เดินทางเข้าพบนางละมุน และแจ้งว่า ให้ใจเย็นๆ เงินดังกล่าวไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในธนาคารกรุงเทพฯ แต่ขอให้ไปถอนแจ้งความกับตำรวจ และธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสินคืนให้ต่อไป
เช้าวันเดียวกันที่ สภ.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นางละมุน พร้อมแม่บ้านของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาอำเภอย่านตาขาว เดินทางมาเพื่อทำเรื่องถอนแจ้งความโดยมี พ.ต.ท.สมพงษ์ ปานเหลือง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ย่านตาขาว รับเรื่องและดำเนินการถอนแจ้งความคดีดังกล่าว ทั้งนี้ นางละมุน กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาสถานีตำรวจเพื่อถอนแจ้งความโดยทางธนาคารกรุงเทพ บอกว่าเงินตนยังอยู่ในธนาคารและให้เหตุผลว่าที่เงินไปออกจากตู้เอทีเอ็นนั้น เพราะตู้ขัดข้อง และแจ้งว่าให้ตนไปถอนแจ้งความแล้วจะคืนเงินให้ ตนรู้สึกดีใจและโล่งใจที่ได้เงินคืน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอาการเครียดและเป็นลมเพราะรู้สึกน้อยใจและเสียใจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาอำเภอย่านตาขาว กล่าวว่า เหตุผลที่นางละมุนกดเงินไปได้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เนื่องจากตู้เอทีเอ็มขัดข้องสาเหตุน่าจะมาจากมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้วันที่ 13 พฤษภาคม ทางธนาคารมีการตรวจเช็ดตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่ามีเงินเหลือในตู้ 5,000บาท และไม่ทราบเป็นเงินของใคร เมื่อมาทราบข่าวว่าเป็นเงินของนางละมุน จึงประสานให้นางละมุนมาเขียนคำร้องและให้ไปถอนแจ้งความ โดยทางธนาคารจะคืนเงินให้กับนางละมุนในวันนี้
หลังเกิดเหตุ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ และสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นห่วง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้าน รวมเป็นเงินจำนวน 4,000 บาทต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่านตาขาว เดินทางเข้าพบนางละมุน และแจ้งว่า ให้ใจเย็นๆ เงินดังกล่าวไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในธนาคารกรุงเทพฯ แต่ขอให้ไปถอนแจ้งความกับตำรวจ และธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสินคืนให้ต่อไป
เช้าวันเดียวกันที่ สภ.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นางละมุน พร้อมแม่บ้านของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาอำเภอย่านตาขาว เดินทางมาเพื่อทำเรื่องถอนแจ้งความโดยมี พ.ต.ท.สมพงษ์ ปานเหลือง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ย่านตาขาว รับเรื่องและดำเนินการถอนแจ้งความคดีดังกล่าว ทั้งนี้ นางละมุน กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาสถานีตำรวจเพื่อถอนแจ้งความโดยทางธนาคารกรุงเทพ บอกว่าเงินตนยังอยู่ในธนาคารและให้เหตุผลว่าที่เงินไปออกจากตู้เอทีเอ็นนั้น เพราะตู้ขัดข้อง และแจ้งว่าให้ตนไปถอนแจ้งความแล้วจะคืนเงินให้ ตนรู้สึกดีใจและโล่งใจที่ได้เงินคืน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอาการเครียดและเป็นลมเพราะรู้สึกน้อยใจและเสียใจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาอำเภอย่านตาขาว กล่าวว่า เหตุผลที่นางละมุนกดเงินไปได้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เนื่องจากตู้เอทีเอ็มขัดข้องสาเหตุน่าจะมาจากมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้วันที่ 13 พฤษภาคม ทางธนาคารมีการตรวจเช็ดตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่ามีเงินเหลือในตู้ 5,000บาท และไม่ทราบเป็นเงินของใคร เมื่อมาทราบข่าวว่าเป็นเงินของนางละมุน จึงประสานให้นางละมุนมาเขียนคำร้องและให้ไปถอนแจ้งความ โดยทางธนาคารจะคืนเงินให้กับนางละมุนในวันนี้