นายประพันธ์ แซ่เตี้ยว หมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน หมู่ 3 บ้านแม่เปรี๊ยะ ต.คลองหรัง อ.นาหม่อม จ.สงขลา เกษตรกรผู้ซึ่งมีความชำนาญด้านช่างไม่มีประสบการณ์ด้านการเกษตร แต่มีความสนใจที่จะทำการเกษตรเนื่องจากอยากมีอาหารที่ปลอดภัยให้กับครอบครัว และคนรอบข้าง จึงได้เข้ามาศึกษาในเรื่องของดิน การจัดการดินและน้ำ ซึ่งสมัครเป็นหมอดินอาสา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 โดยเริ่มทำแปลงเกษตรบนพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่นาร้าง ลักษณะเป็นดินทราย มีปัญหาเรื่อง ขาดน้ำ ดินไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ในช่วงฤดูฝน มีน้ำหลากท่วมขัง ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ จึงเริ่มปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมแก่การทำเกษตร สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ได้เข้ามาในพื้นที่และแนะนำวิธีต่าง ๆ ในการปรับปรุงพื้นที่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการเกษตร เช่นการผลิตปุ๋ยหมักน้ำหมักมูลสัตว์จากสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 โดยใช้มูลไก่ และเศษพืชในแปลงเกษตร เพื่อปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดิน และน้ำหมักชีวภาพ จากสารเร่ง ซุปเปอร์ พด.2 เพื่อเพิ่มธาตุอาหารและฮอร์โมนพืช ให้กับพืชที่ปลูกผ่านระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ทุก 7-10 วัน นอกจากนี้ยังใช้น้ำหมักพืชสมุนไพรสูตรไล่แมลงจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.7 นายประพันธ์ แซ่เตี้ยว หมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน กล่าวว่า ตนเองไม่เคยทำการเกษตรและไม่เคยจะสนใจด้วยเพราะว่าเป็นช่าง ทำให้ไม่รู้เรื่องเกษตร ที่หันมาทำเกษตรเพราะว่าได้ไปอบรม ดูงาน มีแนวคิดการทำเกษตรแบบผสมผสาน ทำให้เรามีกินมีใช้อยู่ โดยไม่ต้องดิ้นรน เมื่อมาเริ่มต้น แบบลองผิดลองถูก ก็ทำไปเรื่อย ๆ จนได้รับความสำเร็จเท่าที่ควร ตัวเองได้มีโอกาสไปเป็นหมอดินอาสา พอได้คำแนะนำ ก็พัฒนาดินขึ้นมาเรื่อย ๆ จนดินไม่มีปัญหา ปลูกอะไรก็ขึ้น พื้นที่การเกษตรของตน 2 ไร่ มีปัญหาที่ดิน ก็เลยได้เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินมาแจก โดโลไมท์ ทำให้ที่ดินเราดีขึ้นมาก เริ่มต้นปลูกเป็นพืชไร่ก่อน ปลูกพร้อม ๆ กันแบบหมุนเวียน จนกระทั่งพืชไร่มันก็หมดสภาพไป เลยมีพืชอย่างอื่นขึ้นมาแทน เช่น มะนาว ทุเรียน เสาวรส ซึ่งพืชทั้งหมดอยู่ในนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ชนิด สถานีพัฒนาที่ดินจัดอบรมเกี่ยวกับการให้ความรู้เรื่องดิน การวิเคราะห์ดิน การหาค่า PH พาไปอบรมด้วยในฐานะที่เราก็เป็นหมอดินหมู่บ้าน พอมีความรู้ ก็นำไปให้ชาวบ้านที่สนใจด้วย เมื่อชาวบ้านประสบความสำเร็จก็ทำให้มีความสุข ผมก็อยากจะขอบคุณสถานีพัฒนาที่ดินที่ให้ความรู้แก่ เกษตรกร ว่าผมได้ไปอบรม ไม่ว่ามีการจัดอบรมที่ไหนก็ให้เป็นตัวแทน ไปอบรม ให้ความรู้อุปกรณ์ พวกปุ๋ยหมัก น้ำหมัก บางครั้งก็ให้เป็นขี้วัวอะไรมา ให้เราหมัก ก็ต้องขอขอบคุณพัฒนาที่ดินนะครับ ที่ให้ความรู้ และให้ปัจจัยกับเกษตรกร นายภัทรชนน ธรรมเจริญ เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน กล่าวว่า เจ้าของพื้นที่แกเป็นหมอดินของสถานีพัฒนาที่ดินสงขลานะ ทางเราได้จัดอบรมทุกปี อบรมปีละครั้ง เสร็จจากการดูงานก็เอาไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ ตามจุดเรียนรู้ต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ สำหรับการช่วยเหลือ เราจะให้ถัง ให้น้ำหมัก และก็ให้กากน้ำตาล สัปปะรดนะครับ ในการผลิตน้ำหมัก และอีกอย่างคือเราจะให้สารปรับปรุงบำรุงดิน เราจะให้โดโลไมท์ในอัตราส่วน 500 กิโลกรัมต่อไร่นะครับ สอนเป็นกลุ่มเราจะมีกลุ่มเกษตรอินทรีย์อยู่ทุกๆ หมู่บ้าน โดยผ่านตัวแทนหมอดิน เกษตรกรเราก็นัดมาสอน สาธิตการทำทุก ๆ อย่าง ให้กับ เกษตรกรได้เรียนรู้ ได้ฝึกทำจริง ต่อจากนั้น ก็จะไปต่อยอดไปทำเองที่บ้านนะ วัตถุดิบที่เหลือจากการใช้ เช่น เศษหญ้า เศษผัก เศษผลไม้ ต่างๆ ที่เหลือก็เอามาผลิตปุ๋ย พวกมูลสัตว์ มูลไก่ ผลิตปุ๋ยใช้เอง ทำให้ลดต้นทุนได้ เกือบ 50 เปอร์เซ็น ส่วนผลไม้ที่บริโภคไม่ได้ก็เก็บทำปุ๋ยน้ำนะครับ ใช้ในพื้นที่ของแก โดยไม่ต้องซื้อมาจากที่อื่น ปรับปรุงบำรุงดิน ทำให้ดินมีสภาพดีขึ้น เพิ่มจุลินทรีย์ในดิน และดินมีช่องว่างในอากาศทำให้ พืชเจริญเติบโตได้ดีครับ ดีขึ้นเห็นได้ชัด ดินจะมี สีคล้ำขึ้นและก็มี จุลินทรีย์เจริญเติบโต พืชที่อยู่ในดิน สัตว์ในดินเช่นพวกไส้เดือน พวกแมงกะชอนก็จะมีนะครับ แต่ก่อนเค้าใช้ปุ๋ยเคมี หน้าดินจะไม่มีสัตว์พวกนี้ พอใช้สารอินทรีย์ //ทำให้ดินดีขึ้น มันร่วนซุยขึ้นเหมาะแต่การเจริญเติบโตของพืช ผลที่ตามมา ทำให้ต้นทุนการใช้ปุ๋ยของเกษตรกรต่ำลง การใช้ปุ๋ยต่ำลง การบริโภคของเกษตรกรปลอดภัย รวมทั้งผู้บริโภคที่เกษตรกรนำไปขาย ที่ตลาดด้วย