รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thira Woratanarat ระบุว่า ...17 พฤษภาคม 2563 โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล วันนี้ดีเดย์เปิดห้างวันแรกในรอบหลายเดือน สถิติวันนี้มีเคสติดเชื้อรายใหม่เป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากอียิปต์และปากีสถาน รวมทั้งสิ้น 3 คน ทำให้ยอดรวมแล้วประเทศไทยมีคนติดเชื้อไปทั้งสิ้น 3,028 คน ช่วงหลังๆ มานี้ จะมีคนติดเชื้อรายใหม่ไม่กี่กลุ่ม ได้แก่ เดินทางจากต่างประเทศ สัมผัสกับผู้ติดเชื้อมาก่อนซึ่งมักเป็นสมาชิกในครอบครัว และจากการไปพบปะติดต่อผู้คนผ่านการเดินทางไปสถานที่ชุมชน สังสรรค์หรือทำงานก็แล้วแต่ เรื่องเดินทางจากต่างประเทศ จึงตอกย้ำความจำเป็นที่รัฐจะต้องปิดกั้นไม่ให้สายการบินพาณิชย์เข้าประเทศ ยกเว้นที่รัฐอนุญาตเป็นกรณีๆ ไป ขืนเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัย ดังนั้นจะกลายเป็นชักศึกเข้าบ้าน โปรดเก็บไว้เป็นเรื่องสุดท้ายที่คิดจะทำ ในขณะที่การติดเชื้อจากการไปสุงสิงกับคนอื่นๆ ทั้งกับสมาชิกในครอบครัว และคนในสังคมโดยรอบนั้น จะเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายยิ่งในระยะปลดล็อคที่กำลังทำอยู่ขณะนี้ เราปลดล็อคระยะที่ 2 ซึ่งจะทำให้มีคนเดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับระยะที่ 1 ดังนั้นความเสี่ยงมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้จะต้องใช้ยุทธวิธีที่แตกต่างจากเดิมที่แนะนำไปในระยะแรก และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้มีวินัย ทำตามกฎระเบียบ ไม่ประมาท ไม่โลภ จึงจะยิงยาวไปได้ ข้อมูลที่ต้องทราบกันคือ ไม่มีประเทศใดในโลกที่ปลดล็อคแล้วตัวเลขติดเชื้อจะไม่กระเพื่อมขึ้น มีแน่ แต่จะช้าจะเร็ว จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับการ์ดที่ทุกคนจะยกขึ้นและความพร้อมเพรียงในการปฏิบัติ ธุรกิจห้างร้าน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าที่เริ่มเปิดวันนี้ ดูแล้วจะดำเนินมาตรการอย่างคึกคักแข็งขัน แต่กวาดตาดูจากทีวี พบว่าบางห้างมีการตั้งโต๊ะให้คนมาเซ็นชื่อ โดยเตรียมปากกาไว้ให้ โดยหารู้ไม่ว่าปากกาที่เตรียมไว้ก็จะเป็นของสาธารณะให้ทุกคนหยิบจับมาใช้ แต่พอใช้เสร็จ ทุกคนที่ใช้ ไม่มีใครเลยทำความสะอาดมือ แต่เดินไปต่อ หยิบจับสิ่งของโทรศัพท์และอื่นๆ ตามชีวิตปกติ นี่เป็นตัวอย่างที่อยากย้ำเตือนให้ธุรกิจห้างร้านต่างๆ ไม่เพียงแต่ต้องทำตามมาตรฐานป้องกันโรคที่รัฐแนะนำไว้กว้างๆ เท่านั้น แต่จะต้องฉุกคิด ทีมงานต้องกลับมาทบทวนว่ามีกระบวนการใดบ้างที่จะเป็นแหล่งแพร่โรคโดยไม่ตั้งใจ ในลักษณะ common source เช่น ปากกา ที่เห็นจากการถ่ายทอดสดเมื่อเช้านี้ ในขณะเดียวกัน ประชาชนควรท่องคาถาป้องกันตัวให้ขึ้นใจ และทำเป็นนิสัย ออกจากบ้านคือความเสี่ยง ดังนั้นต้องใส่หน้ากากเสมอ พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อยๆ ทุกครั้งที่แตะของสาธารณะ และรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ เสมอ หากไปในที่ใด ต้องประเมินดูว่า มีคนเยอะหรือเปล่า ถ้ากวาดสายตาดูแล้วคนเยอะ โปรดเปลี่ยนใจไปที่อื่นก่อนจะดีกว่า หากไปทำงาน ทำธุระ หรือสังสรรค์ มาตรการที่ควรทำคือ 1. ลดจำนวนคนที่เราจะไปพบ ไปติดต่อ ลงสักครึ่งหนึ่ง 2. ลดระยะเวลาที่พบกันลงสักครึ่งหนึ่ง 3. ล้างมือบ่อยขึ้นกว่าเดิม 4. ใส่หน้ากากเสมอแม้เจอกับคนที่คุ้นเคยกัน แค่นี้ก็จะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ไปได้มาก ขอให้ทุกคนปลอดภัย หากรักตัวเองและคนในครอบครัวต้องเคร่งครัด มีวินัย อดทน อดออม พอเพียง New Normal = New "Me" #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ #StayHome #WorkfromHome #โรคติดต่อจะไม่ติดต่อถ้าเราไม่ติดต่อกัน #NewNormal_NewMe เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ... ประเทศไทยต้องทำได้...