“PREB”รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/63 แตะ 40.64 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 993.27 ล้านบาท ผลจากรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ล่าสุดมีงานในมือรอรับรู้รายได้ตุนไว้กว่า 8 พันล้านบาท ขณะที่บอร์ดไฟเขียววงเงินหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุ 5 ปี พร้อมกำหนดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 63 วันที่ 16 ก.ค.63 มั่นใจฝ่าเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบวิกฤติโควิด-19 ไปได้อย่างแข็งแกร่ง นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2563 สิ้นสุด ณ 31 มีนาคม 2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.64 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 993.27 ล้านบาท ปัจจัยที่ทำให้มีกำไรสุทธิ เนื่องจากมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ(backlog) มูลค่า 902.72 ล้านบาท และรายได้การผลิตแผ่นพื้นอีก 90.56 ล้านบาท ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติวงเงินในการเสนอขายหุ้นกู้ ประเภทมีหลักประกันหรือไม่มีหลักประกัน มีวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันออกหุ้นกู้ พร้อมกับกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ที่โครงการพรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 และมีมติกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 “สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวและการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯยังสามารถทำกำไรสุทธิไว้ได้ ซึ่งเป็นกำไรที่มาจากส่วนงานของรับเหมาก่อสร้างเป็นสำคัญ ปัจจุบันบริษัทฯยังคงมียอดงานคงเหลือในมือในส่วนงานก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 8.07 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทำให้มั่นใจว่าจะสามารถพ้นวิกฤติเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน” ทั้งนี้ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตกว่าปีก่อน เนื่องจากมีงานในมือที่จะรอการส่งมอบไว้แล้ว ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการรอผลประมูลงานใหม่ มูลค่าประมาณ 5-6 พันล้านบาท ซึ่งจากการผลงานที่ผ่านมาทำให้บริษัทฯน่าจะมีโอกาสได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทยังดำเนินการตามปกติและโครงการในปัจจุบันก็มีการทยอยโอนเข้ามา ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม PREB เป็นบริษัทที่ flexible สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานไปตามสถานการณ์ได้อย่างดี ซึ่งเชื่อว่า ปีนี้ยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง