เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 พ.ค.63 ที่ศาลากลางจังหวัดตรัง นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายเสริมเกียรติ สุทพิพัฒน์แก้ว หน้าหน้าสำนักงานจังหวัดตรัง นายอำพร ณ นิโรจน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ว่าที่ ร.อ.ปิยะเกียรติ ลิ้มประยูรวงศ์ คลังจังหวัดตรัง เป็นประธานและร่วมในกิจกรรมมอบหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอลให้กับคนพิการจังหวัดตรัง โดยมี นางสาวสุกานดา สุริยะรังสี ประธานชมรมคนพิการเทศบาลนครตรัง และตัวแทนคนพิการจังหวัดตรังรับมอบ นายลือชัย กล่าวว่า ในส่วนของผู้พิการจังหวัดตรังมีอยู่ 3 ส่วนที่ทางจังหวัดได้ดำเนินการทั้งในเรื่องสิทธิเงิน 1,000บาทที่ได้รับจากภาคราชการได้ดำเนินการไปแล้ว อีกส่วนก็คือการให้ความช่วยเหลือเรื่องถุงธารน้ำใจผ่านสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดตรังที่เป็นกลุ่มผู้พิการทางสายตา และการดำเนินการของกรมการปกครองที่ได้รับความอนุเคราะห์จากกลุ่มสหพัฒน์นำหน้ากากอนามัย หน้ากากทางเลือก และทางสภากาชาดไทยมอบแอลกอฮอลแจกจ่ายให้กับผู้พิการในจังหวัดตรัง และในวันที่ 20 พฤษภาคม ทางจังหวัดได้รับความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนนำถุงยังชีพมาสอบให้เป็นการเพิ่มเติมให้กับกลุ่มผู้พิการที่ใหญ่แต่ยังได้รับความช่วยไม่ทั่วถึง ทางจังหวัดจึงบูรณาการให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอน นายลือชัย กล่าวอีกว่า ทางจังหวัดและทางกาชาดจังหวัดได้ดำเนินการในเรื่องของตู้ปันสุข หรือตู้วิเศษ ซึ่งตนได้ประสานไปยังทุกอำเภอได้ดำเนินการโดยเฉพาะภาคเอกชนที่ทำมาก่อนหน้านี้ โดยทางจังหวัดให้การสนับสนุนเพราะถือเป็นเรื่องของน้ำใจที่ได้ช่วยเหลือต่อกัน ที่ผ่านมาทางนายอำเภอแต่ละท้องที่เป็นแกนหลักในการจัดตั้งตู้ปันสุขดังกล่าว ประการสำคัญตนขอความกรุณาว่าในการดูแลตู้ปันสุขอยากให้เห็นภาพของการมีมิตรไมตรีเพราะว่าคนตรังเป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารียเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การที่จะหยิบก็ให้เท่ากับเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน อย่าเอาไปมากจนคนหลังไม่ได้รับถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในการช่วยเหลือแบ่งปันความสุขต่อกันในยามที่ต้องประสบปัญหาความเดือดร้อนของเชื้อโควิด 19 และขอให้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเรื่องของระยะห่างและการล้างมือด้วยเจลด้วย “และในวันนี้ชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับสิทธิ 5,000บาท ก็ได้เดินทางมายังสำนักงานคลังจังหวัดตรังเพื่อยื่นอุทธรณ์สิทธิ ซึ่งจะหมดเขตวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ตนได้สั่งการให้คลังจังหวัดว่าให้มีการจัดสถานที่ดูแลความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่เกินทางมาซึ่งต้อองมีการจัดระบบ ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่อาจจะไม่สะดวก อย่างไรก็ตามในเรื่องของการอุทธรณ์สิทธิตนได้เน้นย้ำว่าขอให้ดูอย่างละเอียดเพราะว่าบางทีชาวบ้านไม่เข้าใจในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ไม่ถนัดในการลงทะเบียนซึ่งขณะนี้ผู้ตกค้างของจังหวัดตรังเหลือไม่มาก เนื่องจากมีชุดที่ลงพื้นทีไปตรวจสอบด้วย