“KUN” ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 มีรายได้รวม 162.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 11.5 ล้านบาท ระบุ Q1 มียอด Walk In เข้าชมโครงการเพิ่มขึ้น ชี้โตสวนกระแสการชะลอตัวธุรกิจอสังหาฯ ภายใต้พิษ COVID-19 พร้อมปรับแผนกลยุทธ์แบบ Worst case scenario และรูปแบบการขายให้เหมาะกับชีวิตแบบ social distance เตรียมลุย “คุณาลัย บีกินส์ 2 ” ดันยอดขายครึ่งปีแรกเพิ่ม ล่าสุดมียอดแห่ซื้อบ้านQ2 เข้ามาแล้วกว่า 150 ล้านบาท นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน)หรือ KUN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีรายได้รวม 162.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 154.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 11.5 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการเติบโตที่สวนกระแสการชะลอตัวของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำหรับอัตราการเติบโตในไตรมาสแรกนั้น เป็นการรับรู้รายได้จากการขาย 5 โครงการหลักประกอบด้วย 1.โครงการ คุณาลัย พรีม 2.โครงการคุณาลัย ซิมโฟนี 3.โครงการคุณาลัย บีกินส์ 4.โครงการคุณาลัย พอลเลน 5.โครงการ คุณาลัย จอย ออน 314 ที่มีการทยอยโอนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วง 2-3 เดือนแรกที่ผ่านมา(มกราคม-มีนาคม 2563) มีจำนวนยอดผู้เข้าชมโครงการ(Walk In) ซึ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่ออิงกับช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ขณะเดียวกันหลังจากที่ COVID-19 บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์แบบ Worst case scenario มาเป็นหลักคิด เพื่อวางรูปแบบการทำงานของบริษัทเพื่อสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ เป็นร้อยละ 7 ของรายได้รวม โดยบริษัทสามารถสร้างรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ได้สูงขึ้นจากไตรมาสที่1/2562 อีกด้วย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2563 นั้น ล่าสุดบริษัทมียอดจองบ้านรอโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาแล้วเป็นจำนวนกว่า 150 ล้านบาท และเตรียมความพร้อมเปิดโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,300 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ คุณาลัย บีกินส์ 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภททาวน์โฮม รวม 363 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดการขายอย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2/2563 ส่วนโครงการ คุณาลัย พรีม ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวม 411 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดการขายอย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาส 3/2563 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สร้างเสร็จบางส่วนก่อนเปิดการขายอย่างเป็นทางการ โดยเป็นการเปิดต่อเนื่องจากโครงการที่ปิดการขายไปแล้วในช่วงก่อนหน้า ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้นหลังการขาย โดยจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงไตรมาสที่เหลือ บริษัทฯ จะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ และภาพรวมธุรกิจทั้งปี2563 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้าหมายที่ไว้ “KUN มีแผนเตรียมเปิดโครงการรองรับงานโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคต เนื่องจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใช้เวลาในการสร้างสินค้านานกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้บริษัทจึงค่อยๆพัฒนาโครงการ อีกทั้งบริษัท ปรับกลยุทธ์รูปแบบการขายให้เหมาะกับชีวิตแบบ social distance โดยการเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสาร และการเข้าเยี่ยมชมโครงการ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆของบริษัท”