นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ส่งผลเกี่ยวเนื่องในทุกอุตสาหกรรม ดังนั้นทางบริษัทจึงดำเนินการรับมือลดแรงกระทบของวิกฤติในครั้งนี้ ด้วยการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในทุกด้าน บริการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมทั้งดูแลสภาพคล่องในการบริหารธุรกิจ ซึ่งจากการปรับตัว และเตรียมความพร้อมระหว่างไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ทำให้ผลการดำเนินการไตรมาสแรกของปีนี้ ยังอยู่ในระดับที่พอใช้ พร้อมกันนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจที่มีอยู่เดิมให้สอดรับกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 จบลง และน่าจะเป็นตัวทดสอบสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2563 ทางบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 174.30 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 194.01 ล้านบาท หรือลดลง 10.15% ส่วนกำไรติดลบ 580,000 บาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่ออกมายังคงมีสถานภาพที่ดีท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวิด-19 และคาดว่า จะกลับมาฟื้นตัวได้ในเร็วๆ นี้ หลังเห็นสัญญาณที่ดีจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ และกลุ่มขนส่งโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญของบริษัทยังเติบโตต่อเนื่อง สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ นายอภิชาติ ได้กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทให้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากระหว่างเกาะสมุย และเกาะพะงัน ซึ่งเปรียบเหมือนประตูหน้าด่าน จึงดำเนินตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด โดยจะมีจุดคัดกรองบริเวณท่าเรือทั้ง 3 จุด คือ ท่าเรือดอนสัก สมุย พะงัน โดยจะให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน รวมทั้งทำความสะอาดเรือ รถรับส่ง และจุดสัมผัสภายในห้องโดยสารด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสหลังจบงานทุกครั้ง