อ่างทองเข้มไม่หยุด สั่งให้ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ห้าง ร้านค้า ตลาดนัด หากฝ่าฝืนสั่งปิดทันที พร้อมเชื่อมโยงสัญญาน วิดีโอทางไกลไปยัง 7 อำเภอ วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.00 น. นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอ่างทอง เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เชื่อมโยงสัญญาน วิดีโอทางไกลไปยัง 7 อำเภอ โดยฝ่ายเลขานุการที่ประชุมรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดทั้งระดับโลก เอเซีย และประเทศไทย ในส่วนของจังหวัดอ่างทอง ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยส่งตรวจห้องปฏิบัติการสะสม 77 ราย ผู้เข้าเกณฑ์สงสัย 64 ราย ผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง 13 ราย มีผู้เดินทางเข้าจังหวัดอ่างทองทั้งหมด 535 คน ตั้งแต่วันที่ 1-11 พฤษภาคม 2563 ภายในประเทศ 527 คน ต่างประเทศ 8 คน ซึ่งทางจังหวัดอ่างทองได้ทำการกักตัวอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง 14 วันทั้งหมด นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ตนเองให้กวดขันการเดินทางเข้ามาในจังหวัดว่ามีหนังสือรับรองการกักตัวจากต้นทางหรือไม่ หากไม่สามารถแสดงหนังสือดังกล่าวได้ ให้เข้าสู่ระบบกักตัวทุกคน เพราะที่ผ่านมาทางจังหวัดอ่างทองได้เข้มงวดมาตลอด จึงไม่อยากให้ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่เหนื่อยหรือการ์ดตกอย่างเด็ดขาด และอีกเรื่องที่สำคัญให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 โดยอย่าให้มีการซับซ้อนในเรื่องของการรับเงินช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด ต้องช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆและไม่ให้เกิดความซับซ้อน ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังมีพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งได้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดอ่างทอง ซึ่งทางจังหวัดก็ได้ประสานไปที่สำนักงานคลังจังหวัดให้ดูแลเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ยังได้มอบหมายให้ทางหน่วยงานกระทรวงเกษตรและพัฒนาการจังหวัด ได้ลงไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตรและกลุ่มโอท็อปของจังหวัดอ่างทอง ซึ่งตอนนี้มีโครงการผู้ว่าฯพาขาย อยู่แล้ว ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการกระจายสิ้นค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงไปแนะนำ และหาวิธีช่วยเหลือหากการแพร่ระบาดหมดลง ทางพี่น้องเกษตรกรสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน สำหรับมาตรการผ่อนปรน ทั้งตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร กิจการค้าปลีกค้าส่ง กีฬา ร้านตัดผมเสริมสวย ให้มีมาตรการควบคุมหลักและมาตรการควบคุมเสริม ในแต่ละประเภท โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบตรวจสอบควบคุมดูแล ให้เป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข และคู่มือการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป.