ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสโควิด-19 ที่กำลังลุกลามในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ณ เวลานี้ ปรากฏว่า หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอโรบอต รูปแบบต่างๆ ถูกยกให้หนึ่งใน “ฮีโร่” ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายที่กำลังเป็นอยู่นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์หมอ หุ่นยนต์ปิ่นโต เป็นต้น ที่ปฏิบัติหน้าที่คอยช่วยเหลือบุคลากรด้านการแพทย์ การพยาบาล ระดับหน้าด่าน หรือแถวหน้า ในสมรภูมิสัประยุทธ์กับโรคร้าย โดยเหล่าบรรดาหุ่นยนต์ข้างต้น จะช่วยป้องกันเชื้อโรค ไม่ให้คุกคามต่อสุขภาพพลามัยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุคลากรการแพทย์ พยาบาล ทั้งหลายหได้อย่างง่ายๆ ล่าสุด “สิงคโปร์” ประเทศที่กำลังประสบกับจำนวนสะสมผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดฯ มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออุษาคเนย์ คือ กว่า 23,336 ราย ก็ได้ไอเดียบรรเจิด เพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสร้าย ไม่ให้อาละวาดมากไปกว่านี้ ด้วยการประกาศใช้ “หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์” หรือ “เอไอโรบอต” มาดูแลตรวจตราการบังคับใช้นโยบาย “การเว้นระยะห่างทางสังคม” หรือ “โซเชียลดิสแทนซิง (Social Distancing)” ให้ดำเนินไปอย่างเข้มงวด และมีประสิทธิภาพ นั่นคือ ให้ผู้คนต้องอยู่ห่างจากกัน 1 – 2 เมตร หรือกว่านั้นก็จะยิ่งดี ถ้าเป็นไปได้ ตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงสวนสาธารณะ ที่ประชาชนไปออกกำลังกายบ้าง หรือไปพักผ่อนหย่อนใจกันบ้าง เพื่อให้การแพร่กระจายของเชื้อโรค ติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง เป็นไปได้ยากที่สุด แถมมิหนำซ้ำ ก็มิใช่ว่าจะประกาศเฉยๆ ธรรมดาๆ ทว่า ยังกำหนดบทลงโทษที่ค่อนข้างจะรุนแรง แก่ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตราการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ว่าเอาด้วย ทั้งโทษปรับ และโทษจำคุก โทษปรับ ก็จะปรับเป็นเงินสูงถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเปรียบเทียบเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ราวๆ 7,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 227,342 บาท ส่วนโทษจำคุก ก็มีระวางโทษสูงสุดจำคุกเป็นเวลาถึง 6 เดือน หรือทั้งจำ ทั้งปรับ เลยทีเดียว โดย “หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์” หรือ “เอไอโรบอต” ที่ “สิงคโปร์” นำมาใช้มีชื่อว่า “สปอต (Spot)” เป็นหุ่นยนต์ที่แสดงอากัปกริยาคล้ายกับสุนัข ดังนั้น หลายคนก็เรียก “หุ่นยนต์สุนัข” หรือ “ด็อกโรบอต (Dog Robot)” อากัปกริยาที่คล้ายกับสุนัข ก็ได้แก่ “การเดินแบบสี่ขา” ที่สามารถเคลื่อนที่ไปในสภาพภูมิประเทศต่างๆ ได้เกือบทุกสภาพ เช่น ที่ขรุขระมากๆ ซึ่งหุ่นยนต์น้องหมา “สปอต” สามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้ด้วยดี ดีกว่า หุ่นยนต์เคลื่อนที่ด้วยระบบล้อ ที่เมื่อเผชิหน้ากับพื้นผิวขรุขระมากๆ ก็อาจจะเคลื่อนที่ต่อไปไม่ได้ ส่วนการ “มองเห็น” เจ้าหุ่นยนต์สปอต ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์กล้องตรวจการณ์ ซึ่งมีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับ วัดระยะของการเว้นระยะห่างในสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังสามารถบันทึกภาพทั้งในแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดี ทั้งสองสรรพคุณ ความสามารถศักยภาพข้างต้น ทางการสิงคโปร์ จึงระดมปล่อยแถวเจ้าหุ่นยนต์สปอต ออกไปช่วยตรวจตราการเว้นระยะห่างทางสังคมของประชาชน ซึ่งเบื้องต้นก็เป็นที่ “สวนสาธารณะ” อันเป็นสถานที่ผู้คนเป็นจำนวนมากไปออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจกัน ทั้งนี้ ทางการสิงคโปร์ จะ “ทดลองงาน” หุ่นยนต์น้องหมาพวกนี้ เป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นเบื้องต้น ก่อนประเมินประสิทธิภาพว่าได้ผลออกมาเป็นอย่างไร? แล้วจากนั้นจะพิจารณาว่า จะให้ “สปอต โรบอต” ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอีกหรือไม่? เบื้องต้นของเหตุปัจจัยที่ทำให้ทางการสิงคโปร์ ใช้งานของหุ่นยนต์น้องหมาพวกนี้ เหตุผลหลักๆ แล้ว ก็เพื่อสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ต้องเข้าไปตรวจตรา กำชับให้ผู้คนที่มีจำนวนมากในสวนสาธารณะ ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โซเชียลดิสแทนซิง ซึ่งคาดว่า จะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคให้แก่พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ต้องคอยลาดตระเวนตรวจตราผู้คนในสวนสาธารณะได้ นอกจากนี้ ศักยภาพอีกประการหนึ่งของเจ้าสปอตที่คล้ายคลึงกับสุนัข ก็คือ ความสามารถด้านดมกลิ่น โดยอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์ด้านการดมกลิ่น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการตรวจตราเกี่ยวกับยาเสพติด วัตถุระเบิด ก็จะส่งผลให้ช่วยป้องกันด้านอาชญากรรมยาเสพติด และการก่อวินาศกรรมได้อีกประการหนึ่งด้วย สำหรับ “สปอตโรบอต” หุ่นยนต์ต้นแบบนั้น ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย “บอสตันไดนามิกส์” ซึ่งเป็นสาขาทางธุรกิจด้านนวัตกรรมของ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือเอ็มไอที ในนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งได้เผยโฉมหุ่นยนต์รุ่นนี้เป็นครั้งแรกเมื่อราวเดือน มิ.ย. 2559 (ค.ศ. 2016) โดยคณะผู้พัฒนาของ “บอสตันไดนามิกส์” ได้แรงบันดาลใจมาจากสุนัข หรือน้องหมาสี่ขา นั่นเอง ก่อนพัฒนาสมรรถนะด้านต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหว การมองเห็น และการดมกลิ่น ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีน้ำหนักเบากว่าหุ่นยนต์รุ่นอื่นๆ จนในปี 2561 ทางบอสตันไดนามิกส์ ได้ผลิตหุ่นยนต์สปอตออกมาจำนวนนับร้อยตัวโลดแล่นประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก เพื่อใช้ภารกิจต่างๆ รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่คล้ายกับตำรวจสุนัข ช่วยลดอัตราความเสี่ยงในชีวิตของเจ้าหน้าที่ได้อักโข