กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.40 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.24 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 8.9 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรมูลค่า 1.1 พันล้านบาท ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกยังคงสร้างความผันผวนให้กับค่าเงินบาทอยู่บ้างเป็นระยะ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ในภาพรวมตลาดยังจับตาทิศทางเศรษฐกิจโลกที่เริ่มสะท้อนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐฯ แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังตัวเลขอัตราการว่างงานเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดที่ 14.7% จากภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน ส่วนการจ้างงานหดตัวมากถึง 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเดียว อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวถือว่าย่ำแย่น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ รวมทั้งถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สถานการณ์การผ่อนปรนมาตรการปิดเมืองและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยหากประธานเฟดส่งสัญญาณว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ ค่าเงินดอลลาร์อาจฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง ด้านธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี) มีมติคงเป้าหมายมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้ไว้ที่ 6.45 แสนล้านปอนด์ และตรึงเดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดที่ 0.1% โดย บีโออีคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้อาจหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 300 ปี สำหรับปัจจัยในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนเมษายนลดลง 2.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี 9 เดือน โดยเป็นการลดลงตามต้นทุนพลังงานเป็นหลัก ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.41% ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อในไตรมาสปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอีกตามอุปสงค์ที่ซบเซา อนึ่งท่ามกลางความเปราะบางของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังการทยอยผ่อนปรนมาตรการลดการติดเชื้อ เราประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันที่ 20 พฤษภาคม 2563