สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  มีความหมายว่า “พระบรมราชินี ผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน” พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจน้อยใหญ่นานัปการโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ของบุคคลผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกล ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฏร์ ทั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์เอง ไปทรงเยี่ยมราษฎรในชนบท ทั่วทุกภูมิภาค แม้ตรากตรำพระวรกาย เนื่องจากการคมนาคมในสมัยนั้น ยังไม่สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน ก็มิได้ทรงย่อท้อ หนึ่งในโครงการพระราชดำริที่มีความสำคัญต่อการพัฒนา คือด้านการศึกษา ทรงเป็นผู้วางรากฐานการศึกษาทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาอยู่เนืองๆ ทรงตระหนักถึงความสำคัญว่า ผลของการศึกษาในวันนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคต ดังนั้น จะเห็นได้ว่าได้พระราชทานทุนเพื่อการศึกษา และส่งเสริมการพัฒนาความรู้ในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน ทรงมีกระแสพระราชดำรัส ด้วยความห่วงใยในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยของนักเรียน นิสิตนักศึกษาว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติ เด็กไทยควรมีความรู้ เกี่ยวกับความเป็นมาของประเทศชาติ ว่ามีวิวัฒนาการและเปลี่ยนแปลงมาสู่ปัจจุบันได้อย่างไรเพื่อไม่ให้เยาวชนหลงลืมเรื่องราวอันเป็นประวัติศาสตร์ และคุณงามความดีของบรรพบุรุษที่ช่วยโอบอ้อมเอกราชชาติไทยให้มั่นคงและคงไว้สืบมา นอกจากนี้ยังมีพระมหากรุณาธิคุณช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่ราษฎรที่มีบุตรมากและยากจนซึ่งทรงพบทั่วไปในพระราชอาณาจักร ทรงห่วงใยราษฎรตามชนบทที่ขาดโอกาสทางการศึกษาเป็นอย่างมาก และทรงมุ่งหวังที่จะให้ราษฎรไทยเป็นประชากรที่มีคุณภาพ พึ่งตนเองได้ ตลอดจนไม่ถูกหลอกลวงโดยผู้ที่มุ่งหวังเอารัดเอาเปรียบผู้ที่มีการศึกษาน้อย ดังนั้นเมื่อได้มีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรและทรงทราบว่าครอบครัวใดมีบุตรที่ยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนแต่ครอบครัวนั้นไม่สามารถส่งบุตรให้ศึกษาต่อจากภาคบังคับได้ ก็จะพระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของครอบครัวนั้น ๑ คน โดยพิจารณาเด็กที่มีความสามารถพอจะศึกษาให้จบอย่างน้อยหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งเป็นเกณฑ์ เพื่อที่จะกลับมาเป็นที่พึ่งของครอบครัวในการทำมาเลี้ยงชีพ และส่งเสียให้สมาชิกครอบครัวรายอื่นๆได้รับการศึกษาต่อไป ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานทุนการศึกษาแก่เด็กเหล่านี้แล้วเป็นจำนวนหลายพันรายทั่วประเทศ ด้วยพระราชกรณียกิจนานัปการ ทำให้สถาบัน องค์กร มหาวิทยาลัยหน่วยงานต่างๆ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์โล่เฉลิมพระเกียรติ รางวัล และประกาศเกียรติคุณต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่นองค์กรเอฟเอโอ ทูลเกล้าฯถวายเหรียญซีเรสเทิดพระเกียรติในฐานะที่ทรงยกฐานะของสตรีให้มีระดับสูงขึ้นและทรงเป็นผู้“ให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง”มหาวิทยาลัยทัฟฟ แห่งรัฐแมสซาซูเซ็ทท์สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยธรรมในฐานะที่ทรงยกระดับฐานะการครองชีพของประชาชนและช่วยบรรเทาทุกข์ของเด็กๆในหมู่ผู้ลี้ภัย สหพันธ์เด็กแห่งนครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯถวายรางวัลบุคคลดีเด่นด้านพิทักษ์เด็ก สถาบันเอเชียโซไซตี้แห่งกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯถวายรางวัลด้านมนุษยธรรมมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าของโลกสดุดีเทิดพระเกียรติในฐานะบุคคลดีเด่นด้านอนุรักษ์สัตว์ป่าราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งอังกฤษ ได้ทูลเกล้าฯถวายสมาชิกภาพกิตติมศักดิ์ซึ่งสถาบันแห่งนี้เคยมอบให้เฉพาะผู้ที่เป็นแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นเป็นที่รู้จักระดับโลกเท่านั้นนอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยและสถาบันอื่นๆ อีกมากมายที่ทูลเกล้าฯถวายปริญญา และรางวัลประกาศกิตติคุณแด่พระองค์ท่าน ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจที่ทรงคุณประโยชน์อย่างยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทย แก่ชาติบ้านเมืองโดยเฉพาะราษฎรยากจนไร้ที่พึ่งพิงทรงพระเมตตาต่อชนทุกชาติทุกศาสนา ทรงเห็นการณ์ไกล พระราชทานพระราชดำริต่างๆ ในการช่วยเหลือราษฎรทุกหนแห่งภูมิภาคตามความเหมาะสมแก่ภูมิประเทศและความเป็นอยู่ของราษฎรยิ่งนัก พสกนิกรล้วนได้ประจักษ์แล้วว่า สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงรักและเอื้ออาทรต่อราษฎร ประดุจความรักของมารดาที่มีต่อบุตรโดยแท้            จึงกล่าวได้ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างในการนำความเจริญก้าวหน้า และความมั่นคงมาสู่ประเทศชาติ ประชาชนทรงเป็น “พระบรมราชินี” ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงดำเนินพระราชจริยวัตรตามหลักคุณธรรมของผู้ปกครองบ้านเมือง เปี่ยมล้นไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์อย่างหาที่สุดมิได้ ข้อมูลสำนักงานกปร.