วันที่ 10 พ.ค.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม, พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ, พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา, พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.พิทยา คงเจริญ สว.กก.4 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายนัฐวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดลพบุรี ที่ จ.51/2563 ลงวันที่ 7 พ.ค. 63 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ได้ที่ ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.63 นายชัยวัฒน์ (ผู้เสียหาย) อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี พร้อมกับผู้เสียหายหลายราย ได้เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนายนัฐวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลในคดี ฉ้อโกง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตนและผู้เสียหายรายอื่นถูกหลอกให้โอนเงินสั่งซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย (วัดไข้) และสินค้าอื่นๆ อีกหลายประเภท แต่ไม่ได้รับสินค้าจริง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่าแสนบาท ทางผู้เสียหายจึงได้รวมตัวกันเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมตัวนายนัฐวัฒน์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายนัฐวัฒน์ ผู้ต้องหา ให้ได้โดยเร็วเนื่องจากประชาชนได้รับความเดือนร้อน จากการกระทำของผู้ต้องหาที่ฉวยโอกาสในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่ ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 22 หมู่ 10 ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พบผู้ต้องหายืนอยู่หน้าบ้านจึงได้จับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลังจากก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายแล้ว ตนได้นำเงินไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด ตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับศาลจังหวัดสวรรคโลก ที่ 14/2562 ลงวันที่ 5 ก.พ.62 ในข้อหา“ฉ้อโกงทรัพย์, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” อีก 1 ใบ