กองทัพภาคที่ 2 กองพลทหารราบที่ 6 และกองกำลังสุรนารี คิกออฟ รับซื้อสินค้าและผลิตผลทางการเกษตร จากกลุ่มเกษตรกร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปประกอบเลี้ยงให้กับกำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วันที่ 9 พ.ค.63 ที่ศาลาศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บ้านห้วยเสลา ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พลตรี กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานเปิดกิจกรรม คิกออฟ รับซื้อสินค้าเกษตร เพื่อประกอบเลี้ยงในหน่วยทหาร ตามโครงการ “หน่วยทหารจ่ายตลาด ช่วยเหลือเกษตรกร พื้นฟูเศรษฐกิจ” โดยมีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายราชศักดิ์ ตระสินธุ์ สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ พลตรี อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี นำหน่วยทหารในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ มารับซื้อผลผลิตจากขบวนการสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระ รวมถึงสร้างรายได้ ให้กับขบวนการสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกษตรกร ไม่สามารถนำสินค้าและผลิตผลทางการเกษตรออกไปจำหน่ายได้ตามปกติ จึงทำให้เกษตรกรขาดรายได้ และเงินทุนหมุนเวียน พลตรี กิตติศักดิ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล และกองทัพบก ในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กองทัพภาคที่ 2 โดย กองพลทหารราบที่ 6 กองกำลังสุรนารี จึงได้มีแนวทางที่จะช่วยเหลือเกษตรกร โดยให้หน่วยทหารในพื้นที่แนวชายแดน ช่วยกันรับซื้อสินค้าทางการเกษตร จากกลุ่มเกษตรกร เพื่อนำไปประกอบอาหารให้กับกำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในหน่วยสนามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ได้ในระดับหนึ่ง และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดขอโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับกิจกรรม คิกออฟ ซื้อสินค้าทางการเกษตรในวันนี้ จะนำผลผลิตทางการเกษตรที่ได้ไปประกอบอาหาร ให้กับกำลังพลของหน่วยภาคสนาม ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จำนวน 6 หน่วย ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กกล.สุรนารี, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 , กองพันทหารราบที่ 21 , กองพันทหารม้าที่ 22 , กองพันทหารปืนใหญ่สนามที่ 62 และกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ในส่วนการรับซื้อผลิตผลจากกลุ่มเกษตรกร ได้กำหนดวงรอบในการรับซื้อ 3 วันต่อครั้ง คิดเป็นปริมาณ 2,500 กิโลกรัมต่อครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 บาท สามารถช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 200 ราย ขณะเดียวกัน ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้จัดเตรียมความพร้อม และให้คำแนะนำกับกลุ่มเกษตรกร ที่จะจัดส่งสินค้าออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไปด้วย